Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Wednesday, February 10, 2016

"ประตูเมืองอินเดีย" หรือ "India Gate"



นั่งรถเฉียดไปเฉียดมาอยู่หลายครั้ง วันนี้มาถึงแล้วครับ

"ประตูเมืองอินเดีย" หรือ "India Gate"

หนึ่งในอนุสรณ์แห่งชาติและอนุสรณ์แห่งสงครามที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย "ประตูอินเดีย" หรือ "India Gate" หรือรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "All India War Memorial" ประตูเมืองแห่งนี้สูง 43.3 เมตร ซุ้มโค้งของประตูกว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร สร้างขึ้นโดยใช้หินทรายแดงแท่งทึบ (Massive Sand-Stone)  ออกแบบโดยเซอร์ เอ็ดเวิร์ด ลูตเยนส์ (Sir Edwin Lutyens) 




มีการสลักชื่อทหารที่พลีชีพในสนามรบไว้บนอนุสรณ์สถาน รายชื่อที่สลักไว้เหล่านี้เป็นทหารอินเดียและอังกฤษ จำนวน 90,000 นาย ที่ได้ต่อสู้ปกป้องเพื่อจักรวรรดิอินเดียของอังกฤษในสงครามชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ (Northwest Frontier) สงครามอัฟกัน ครั้งที่ 3 (Third Afghan War) และในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อกว่าหนึ่งร้อยปีที่แล้วไว้ที่ส่วนบนสุดของประตูเมืองอุทิศเพื่อทหารหาญที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยในระหว่างสงคราม



ที่บริเวณฐานอนุสรณ์สถานมีนายทหารยามแต่งเครื่องแบบลักษณะคล้ายกลาสีเรือยืนรักษาการณ์นิ่งอยู่ในท่าทำความเคารพดวงวิญญาณอันมีเกียรติของผู้จากไป....



"ประตูเมืองอินเดีย" หรือ "India Gate" แห่งนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในงานวันสำคัญต่าง ๆ คือวันชาติ (26 มกราคม) และงานวันฉลองเอกราช (15 สิงหาคม)....

No comments:

Post a Comment

RevolverMap