Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Sunday, December 27, 2015

รำพึงคดีเกาะเต่า...



ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางการเมืองอย่างรุนแรงเมื่อหลายปีก่อน  ก่อนที่จะปิดฉากความขัดแย้งยกแรกด้วยการรัฐประหารของ “คมช.” ในเวลาต่อมา  ได้เกิดคดีสำคัญในความทรงจำเกิดขึ้นคดีหนึ่ง "คดีคาร์บอมบ์ทักษิณ"

เหตุการณ์ในครั้งนั้น ฝ่ายตรงข้ามของทักษิณฯ "เสื้อเหลือง" ได้ออกมาโหมกระหน่ำ ปลุกระดม ใช้สื่อในมือทุกชนิดชี้นำบิดเบือนกำหนดทิศทางจนคดีเสียรูปกลายเป็น "คดีคาร์บ๊อง" ไป ในขณะที่คนรักทักษิณ "เสื้อแดง" ต่างรู้สึกโกรธแค้นในความวิปริตของสื่อและสังคมบ้านเมืองในขณะนั้น 

ล่วงเลยผ่านมาหลายปี กงล้อในประวัติศาสตร์หมุนทับรอยเดิม เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมเกิดขึ้นภายใต้สภาวะแวดล้อมทางการเมืองที่มีความต่อเนื่องกันมา  เมื่อเกิดคดีสำคัญอีกคดีหนึ่ง "คดีเกาะเต่า"  ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อคนดูคนเดิมสลับข้างกัน


"ตำรวจ" ยังเป็นตำรวจคนเดิมที่ทำงานอยู่ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมทางการเมืองเดิมๆ เปลี่ยนเพียง "รัฏฐาธิปัตย์" และผู้นำองค์กรสูงสุด แต่คนดูที่เคยเป็นฝ่ายกองเชียร์กลับกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งที่เคยเป็นฝ่ายตรงข้ามก็แปรสภาพกลับมาเป็นมวลชนให้กำลังใจตำรวจ...

ท่ามกลางเสียงครหาและคำสบประมาท ตำรวจยังคงเป็นตำรวจคนเดิม และก้มหน้าก้มตาทำงานเดิมๆ ต่อไป

Thursday, December 17, 2015

Incredible Training in Incredible India


Incredible Training in Incredible India
ใกล้เข้ามาอีกนิด เกือบได้เวลาที่จะได้ออกไปผจญภัย ณ ดินแดนชมพูทวีปแล้ว

หลังจากสนทนาโต้ตอบผ่านทางอีเมลกับฝ่ายการศึกษาสถานทูตอินเดียหลายฉบับ ในที่สุดเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 10 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางสถานทูตอินเดียได้ตอบรับผมเป็น participant เข้าร่วมฝึกอบรมในหลักสูตร “Certificate of Proficiency in English and IT Skills” ณ สถาบัน Aptech Ltd เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยการส่งอีเมลให้กับทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำเนาให้ผมทางอีเมลอีกทางหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือเป็นขั้นตอนทางธุรการระหว่าง ศอ.บต. และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัดของผม ส่วนผมเองมีหน้าที่ดำเนินการเรื่องการลากิจฝึกอบรมต่างประเทศผ่าน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ถึง ผบช.ศชต. เนื่องจากหนังสือเดินทางราชการเล่มเก่าของผมหมดอายุแล้ว จึงต้องทำหนังสือเดินทางราชการใหม่ โดยจะต้องขอรับเอกสารหนังสือนำซึ่งลงนามโดย ผบช.ศชต.ถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศขอให้ออกหนังสือเดินทางราชการ โดยแจ้งการอนุมัติให้ผู้ยื่นคำร้องเดินทางไปราชการ พร้อมสำเนาบันทึกหรือสำเนาคำสั่งที่อนุมัติตัวบุคคลให้เดินทางไปราชการ ฯลฯ เพื่อไปดำเนินการยื่นคำร้องทำหนังสือเดินทางราชการ (Official Passport) ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ หรือหน่วยบริการส่วนย่อยที่กรมการกงสุลได้ตั้งขึ้นเพื่อให้บริการทำหนังสือเดินทางที่บริเวณ ศอ.บต. อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

ระหว่างนี้ สถานทูตอินเดียได้ดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินให้ผม ปรากฎว่า เป็นสายการบินแอร์อินเดีย ซึ่ง เป็นสายการบินแห่งชาติอินเดีย เอกสารในอีเมลระบุวันเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ 6 มกราคม 2559 เวลา 08.50 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี เวลาประมาณ 12.05 น. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) และเมื่อสำเร็จการฝึกอบรมตามหลักสูตรแล้วจะต้องเดินกลางกลับประเทศไทยด้วยสายการบินเดียวกัน จากท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ในวันที่ 17 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 13.45 น. (ระบุให้ check in ก่อนเวลา 12.45 น.) ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 19.20 น.(สงสัยตงิดๆ ว่าทำไมขากลับใช้เวลามากจัง???? อาจเป็นเพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับการตรวจที่แสนจะเข้มงวดละเอียดยิบของท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กระมัง???)

ระหว่างการฝึกอบรม ทางสถานทูตอินเดียจองตั๋วเครื่องบินไปกลับให้ ส่วนสถาบัน Aptech Ltd ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการฝึกอบรม เป็นผู้ดำเนินการจัดโรงแรมที่พักให้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 25,000 รูปี (คิดเป็นเงินไทยเอา 2 หารโดยประมาณ)

การทัศนศึกษาดูงานนอกสถานที่ ในเอกสารหลักสูตรที่ผมสมัครเรียนระบุไว้ 3 เมืองดังนี้ ครับ  #เมืองเดลี  Delhi: the Red Fort, India Gate, Lotus Temple, Humayun's Tomb, Qutab Minar and the Taj Ghat.  #เมืองอัครา  Agra: Tajmahal, Agra Fort  #เมืองชัยปุระ  นครสีชมพู Jaipur: the pink city of Jaipur houses monuments and architectural wonders such as Hawa Mahal, Amber Fort, Jantar Mantar & Maharaja Palace
แต่ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งในอีกหลายเมืองที่ผมหมายหมั้นปั้นมือว่าจะต้องหาโอกาสไปเยือนให้ได้แม้จะต้องหาโอกาสวันหยุดแบคแพ็คเดินทางไปคนเดียวก็ตาม เช่นเมืองศรีนคร เมืองเลห์ ในแคว้นจัมมูร์และกัษมีร์ ซึ่งอยู่เหนือสุดของประเทศรวมทั้งเมืองอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายเมืองทั่วประเทศ

ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ หลายคงจะสงสัยว่าผมได้ทุนอะไรไปฝึกอบรมที่ประเทศอินเดีย???

สำหรับทุนการฝึกอบรมที่ผมได้รับนั้น คือทุน ITEC/SCAAP Programme รัฐบาลอินเดียได้ก่อตั้งโครงการ The Indian Technical and Economic Cooperation (ITEC) Programme ขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2507 ถือเป็นโครงการสำคัญยิ่ง (flagship) ในความพยายามให้ความช่วยเหลือทวิภาคีแก่รัฐบาลประเทศต่างๆ ซึ่งไม่เพียงแต่มีขอบเขตครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางเท่านั้น (ดู partner countryhttp://itec.mea.gov.in/?1348%3F0) แต่ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมในการให้ความร่วมมือด้านเทคนิคใหม่ๆ มีวิชาการฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ หลากหลาย ไม่เฉพาะแต่ในเรื่องของภาษาอังกฤษและด้านไอทีเท่านั้นนะครับ มีทั้งด้านการบริหาร ด้านการเกษตร ด้านการแพทย์ (ไม่มีด้านตำรวจหรือด้านความมั่นคงนะครับ) ฯลฯ ดูรายละเอียดหลักสูตรต่าง ๆ ได้ตาม url นี้ ครับ http://itec.mea.gov.in/?pdf3967%3F0 หากเพื่อนๆ พี่ๆ สนใจสามารถดูรายละเอียดได้เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://itec.mea.gov.in/ หรือกรอกใบสมัครได้ด้วยตนเองที่ url:https://itecgoi.in/meaportal/homepage หลักสูตรด้านภาษาอังกฤษและไอที มีสถาบัน Aptech Ltd เป็นผู้รับผิดชอบ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.aptech.worlwide.com หรือ www.aptech-globaltraining.com

ใครบ้างที่มีสิทธิ์ขอรับทุน ITEC/SCAAP Programme จากเอกสารคู่มือที่ผมได้รับ ผู้มีสิทธิ์ขอรับทุนมีดังนี้ครับ Official in Government, Public Sectors, Universities, Chambers of Commerce and Industry, etc.

จะขอรับทุนได้อย่างไร ในส่วนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ปี 2558 เป็นปีแรกที่สถานทูตอินเดียมีหนังสือแจ้งการให้ทุนมายัง ศอ.บต. ซึ่ง ศอ.บต.จึงได้มีหนังสือเวียนแจ้งหน่วยในพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์กำลังพลสมัครขอรับทุน ผมทราบเรื่องนี้และสมัครขอรับทุนตั้งแต่เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายน 2558 ส่วนปีหน้าใครที่สนใจก็รอฟังข่าวนะครับ ส่วนเพื่อน ๆ พี่ๆ ที่อยู่นอกเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลองติดต่อที่ฝ่ายการศึกษาสถานทูตอินเดียดูนะครับ หมายเลขโทรศัพท์ 02-2580300-5 ขอให้โชคดีครับ

Sunday, December 13, 2015

"ปอแก้ว" พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของรัฐกลันตัน


มาเลเซียกำลังเร่งผลักดันให้เกษตรกรในรัฐกลันตันปลูกพืชเศรษฐกิจตัวใหม่เพื่อทดแทนการปลูกยาสูบในอนาคต โดยรัฐบาลกลางมาเลเซียเริ่มเปิดตัวพืชเศรษฐกิจที่ว่านี้ในเขตพื้นที่อำเภอยือลีก่อนเป็นอำเภอแรก (อำเภอยือลี รัฐกลันตัน ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส มีคลองบาโอ๊ะ หรือแม่น้ำสุไหงโกลก กั้นกลาง) จากนั้นจึงจะขยายขอบเขตการสนับสนุนไปยังอำเภออื่น ๆ ของรัฐกลันตันต่อไป



ซึ่งในวันนี้ (13 ธ.ค.2558) เวลาประมาณ 09.00-12.00 น.  ผมได้มีโอกาสร่วมเดินทางติดตามไปกับคณะพัฒนาการจังหวัดนราธิวาส, หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนราธิวาส, นายอำเภอสุไหงโกลก, นายกเทศบาลตำบลโละจูด, นายก อบต.โละจูด  พร้อมด้วยนายสันต์ มะตาเฮ ปลัดอาวุโสอำเภอแว้ง ฯลฯ ร่วมกิจกรรมพิธีเปิดตัวพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ดังกล่าวของรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียที่บ้านบูกิตบุหงา อำเภอยือลี รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย  



พืชเศรษฐกิจตัวที่ว่านี้คือ “ปอแก้ว” ซึ่งจะนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเช่น เชือก กระสอบป่าน รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ  ในงานมีการจัดซุ้มนิทรรศการ ผลิตภัณฑ์จากปอแก้วประเภทต่างๆ 



โดยมีดาโต๊ะ สะรี มุสตาปา มูฮัมมัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ประเทศมาเลเซีย ซึ่งท่านมีภูมิลำเนาเป็นคนในพื้นที่อำเภอยือลี รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี (อารมณ์ประมาณนายหัวชวน หลีกภัย กลับมาทำพิธีเปิดในจังหวัดตรัง หรือนายบรรหาร ศิลปอาชา กลับมาทำพิธีเปิดในจังหวัดสุพรรณบุรี)



 หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดตัว “ปอแก้ว” คณะเดินทางจากประเทศไทยได้ถ่ายรูปร่วมกับท่านรัฐมนตรีฯ และเยี่ยมชมนิทรรศการในบริเวณงาน จากนั้นได้ร่วมประทานอาหารมื้อเที่ยงกับเจ้าภาพ 



กิจกรรมระหว่างประเทศตามแนวชายแดนในลักษณะนี้มีบ่อยครั้ง บางครั้งฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพเชิญฝ่ายมาเลเซียมาร่วมงาน ครั้งนี้ฝ่ายมาเลเซียเป็นเจ้าภาพฝ่ายไทยก็ไปร่วมงาน ข้าราชการรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยหรือมาเลเซียมีการไปมาหาสู่กันแบบนี้เป็นปกติ



ภาพถ่าย: เปาะดัง เทศบาลบูเก๊ะตา

Sunday, December 6, 2015

ดอกไม้หลากสี



ในนามของ “secularism” จำเป็นไหมที่เราต้องปฏิเสธความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม?  

ในโลกแห่งความเป็นจริง หากเราจะพิจารณา ดอกไม้งามหลากสีหลากชนิดนานาพันธุ์ในแจกัน หรือแม้แต่ในสวนหย่อมย่อมคงความงดงามทรงคุณค่ากว่าดอกไม้ซึ่งดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพังเพียงดอกเดียวหรือมีสีสันหรือชนิดหรือประเภทเดียว ความงามอันลึกซึ้งเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างสีสันและความหลากหลายหาใช่การอยู่อย่างปัจเจก...

Thursday, October 29, 2015

"ขุนเขาแห่งดอกไม้"


ด่าน Bukit Bunga (อ่านว่า "บูกิตบุหงา) อำเภอ Tanah Merah รัฐ Kelantan ประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับด่านบูเก๊ะตา บ้านบูเก๊ะบูงอ ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส 

คำว่า "Bukit Bunga" (บูกิตบุหงา) กับ "บูเก๊ะบูงอ" เป็นคำเดียวกันในภาษามลายู มีความหมายเดียวกัน แต่คนละสำเนียง หมายถึง "ขุนเขาแห่งดอกไม้" แสดงให้เห็นถึงความผูกพันและเป็นผืนแผ่นดินเดียวกันมาแต่เดิมในอดีต

Monday, October 19, 2015

Thai Muslim (Malay & Indian), the service in the new era of Royal ThaiPolice



"หงอนแดง แข้งดำ.. คำเรียกตำรวจ ชาวแขกมลายูและแขกอินเดีย ที่รับราชการเป็นตำรวจยุคใหม่ ในรัชสมัย ร.4 ร.5" / อีกความภาคภูมิ...
Posted by Sukre Sarem on Monday, October 19, 2015

Wednesday, September 9, 2015

FBI Pacific Training Initiative 27th Session Bangkok,Thailand August 24-September 3, 2015

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever. 




เมื่อระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมาผมได้รับโอกาสที่ดีมากเข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตร Pacific Training Initiative 27th Session หรือ PTI ของหน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ  (Federal Bureau of Investigation) หรือ FBI ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ รัฐบาลไทย และรัฐบาลประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก ระยะเวลาการฝึกอบรม 2 อาทิตย์ สถานที่ฝึกอบรมจัดขึ้นที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพมหานคร 





ผมเดินทางไปถึงโรงแรมคอนราดตอนกลางดึกของวันที่ 23 สิงหาคม เชคอินเข้าที่พักได้ห้องพักหมายเลข 2114 อยู่ชั้นที่ 21 ผมถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ ว่าผมได้พักกับใคร ก็ได้ความว่า roommate ผมเป็นคนสัญชาตินิวซีแลนด์   “ตายละหว่า!!!” ผมนึกในใจ   ภาษาอังกฤษผมไม่แข็งแรงมากพอจะเอาตัวรอดได้เท่านั้น  นี่ต้องมาอยู่ร่วมห้องกับคนนิวซีแลนด์ แต่เอาล่ะวะ  จะได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษให้เก่งมากยิ่งขึ้น  เมื่อใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้องเข้าไป  แสงไฟจากนอกห้องส่องเข้าไปเห็นคนรูปร่างใหญ่นอนตะคุ่ม ๆ อยู่ในเงามืด เจ้าตัวคงจะรู้สึกตัวจึงพลิกตัวขยับผ้าห่ม ผมจึงทักทายไปว่า ขอโทษที่รบกวนทำให้ตื่น เจ้าตัวบอกไม่เป็นไร ตอนนี้ผมสังเกตเห็นชัดแล้วว่า roommate ผม ไม่ใช่ฝรั่งผิวขาว หน้าตาลักษณะคล้ายคนเอเชีย แต่พูดภาษาอังกฤษคล่องมาก คืนนั้นหลังจากอาบน้ำและจัดของเข้าที่เข้าทางเสร็จแล้วก็ทำละหมาด จากนั้นก็เข้านอน ถึงตอนนั้น roommate ผมคงจะรู้แล้วว่าผมเป็นมุสลิม





เช้าวันที่ 24 สิงหาคม วันแรกของการฝึกอบรม ผมกับ roommate ซึ่งตอนนี้ทราบชื่อแล้วว่า “Karl Touna Nixon Samupo” ชื่อเล่น "Karl" แต่งเครื่องแบบตำรวจเพื่อร่วมพิธีเปิดการฝึกอบรม เครื่องแบบตำรวจของ Karl เป็นชุดคอแบะสีกรมท่าผูกเนคไทด์ ส่วนผมแต่งเครื่องแบบกากีคอพับแขนยาว ในวันต่อๆ ไปของการฝึกอบรมพวกเราได้รับอนุญาตให้แต่งชุดลำลอง    ผมนั่งคุยกับ Karl กันถูกคอ สังเกตได้ว่า Karl ยังเป็นเด็กหนุ่ม อายุน่าจะไม่เกิน 30 ปี  คุยกันจนทราบว่า Karl  เดินทางมาจากดินแดนไกลโพ้นกลางมหาสมุทรแปซิฟิก  “Niue Island” (อ่านว่านีอูเอ หรือนิวเอ) เคยได้ยินชื่อไหมครับ พิจารณาจากรูปร่างหน้าตาของ "Karl" แล้ว พอจะอนุมานได้ว่า มีบรรพบุรุษเป็นญาติใกล้ชิดกับชาวเผ่าเมารีแห่งนิวซีแลนด์



การฝึกอบรมโฟกัสเนื้อหาไปที่อาชญากรรมข้ามชาติ (transnational crime) ในแง่มุมต่างๆ เช่นการก่อการร้ายข้ามชาติ การคอรัปชั่น การฟอกเงิน การลักพาตัว องค์กรอาชญากรรม ฯลฯ  โดยมีเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายหน่วยงานในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกมิตรประเทศส่งตัวแทนเข้าร่วมการฝึกอบรมรวมวิทยกรและสต๊าฟจากสหรัฐอเมริกา 16 ประเทศ ประกอบด้วย บังกลาเทศ อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย พม่า เกาหลีใต้ มองโกเลีย ฟิลิปปินส์ เกาะโซโลมอน เกาะนิวเอ (Niue) ศรีลังกา ไต้หวัน เวียตนาม ไทย และสหรัฐอเมริกา  รวม 52 คน  สำหรับในส่วนของประเทศไทย มีบุคลากรจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งจากในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่จากสถานทูตอเมริกา รวม 26 คน ทาง FBI จัดที่พักให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่เป็นคนไทยพักร่วมกับเพื่อนจากต่างประเทศ เพื่อสร้างความคุ้นเคยซึ่งกันและกันในระหว่างการฝึกอบรม ปรากฏว่าระยะเวลาสั้นๆ แค่เพียง 2 สัปดาห์นี้ กลับมีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้นหลายเรื่องด้วยกัน


Niue บ้านเกิดของ roommate ผม เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ อยู่ห่างจากทางตะวันออกเฉียงเหนือของนิวซีแลนด์ประมาณ 2,400 กิโลเมตร อยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “Polynesia” ซึ่งมักจะเรียกว่า "Rock of Polynesia" Niue ซึ่งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมระหว่างประเทศตองกา ประเทศซามัว และหมู่เกาะคุก ประชากรประมาณ 1,500 คน มีตำรวจประจำการ 15 นาย เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในดินแดนใกลโพ้นและโดดเดี่ยวแห่งนี้ไม่ค่อยมีอาชญากรรมเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็เคยมีอาชญากรรมข้ามชาติระดับโลกเกิดขึ้นกับเขาเหมือนกันครับ



การเมืองการปกครอง เป็นเขตพิเศษปกครองตนเอง อยู่ในความสัมพันธ์เสรี (free association) กับประเทศนิวซีแลนด์ ภายใต้เครือจักรภพ ประมุขของ Niue คือ “HM Queen Elizabeth II” นั่นเอง นิวซีแลนด์ดูแลด้านการทหารและความสัมพันธ์ทางการทูตของ Niue อย่างไรก็ตาม รัฐบาลราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาล Niue ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างกันในระดับสถานเอกอัครราชทูตตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2556 เป็นต้นมาในสมัยรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

มีโอกาสค่อยมาว่ากันต่อนะครับ

Thursday, August 13, 2015

การตรวจสอบการฝึกในระดับกองบัญชาการ (ศชต.)



วันนี้ มีภารกิจสำคัญตามมาให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาในการตรวจสอบการฝึกและประกวดการฝึกแบบตำรวจและการฝึกยุทธวิธีตำรวจในระด...
Posted by Supachaj Yeewangkong on Thursday, August 13, 2015

Wednesday, August 5, 2015

สอบสัมภาษณ์ไปฝึกอบรมที่ประเทศอินเดีย



ผมมาถึงสถานทูตอินเดียเวลา 09.30 น. ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ได้เข้าพบท่านผู้ช่วยทูตฯ เวลาประมาณ 10.00 น. อุตส่าห์ทำการบ้านเต...
Posted by Supachaj Yeewangkong on Tuesday, August 4, 2015

Friday, July 10, 2015

สมัครไปอบรมทุนรัฐบาลอินเดีย



ผมสมัครไปอบรมหลักสูตร Certificate of Proficiency in English & IT Skills ทุนรัฐบาลอินเดียที่ประเทศอินเดีย ระยะเวลาฝึกอบรม...
Posted by Supachaj Yeewangkong on Friday, July 10, 2015

Saturday, March 7, 2015

มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ



มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ

การผิดศีลข้อที่ 4 มุสาวาท (การพูดปด พูดเท็จ โกหก หลอกลวง)

การกระทำที่ถือว่าผิดศีลข้อนี้อย่างสมบูรณ์ จะต้องประกอบด้วยส่วนประกอบดังนี้

- เรื่องราวนั้นไม่เป็นความจริง
- มีจิตคิดจะมุสา คือมีเจตนาที่จะโกหก หลอกลวง
- พยายามด้วยกาย หรือด้วยวาจา หรือวิธีการใดๆ เพื่อจะให้ผู้อื่นเชื่อตามเรื่องราวนั้น คือดำเนินการโกหก หลอกลวงนั่นเอง
- ผู้อื่นเชื่อตามเรื่องราวนั้น

Sunday, March 1, 2015

พี่ให้น้อง

 
สืบเนื่องจากเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.2558) พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.บูเก๊ะตา ได้ขึ้นไปเยี่ยมกลุ่มนักศึกษามุสลิมมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ที่เข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา (ค่ายพัฒนานักศึกษาสู่ความเป็นพลเมือง) พบว่ามีนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 150 คน เกินกว่าที่คณะได้เตรียมการด้านที่พักและอาหารซึ่งเตรียมไว้เพียง 70 คนเท่านั้น

วันนี้ (28 ก.พ.2558) เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.บูเก๊ะตา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภชัช ยีหวังกอง รอง ผกก.(ป)ฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ได้นำข้าวสาร จำนวน 2 กระสอบ พร้อมอาหารแห้ง มาสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษาฯ ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา บาลา ม.5 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส

พร้อมกับได้กำชับการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจมุสลิมที่มอบหมายให้มาดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกหากได้รับการร้องขอเพิ่มเติม

Tuesday, February 17, 2015

กิจกรรมวันแห่งความรักที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา

 
S__221272อาทิตย์อุทัยที่ด่านบูเก๊ะตา
 
ผ่านพ้นไปแล้วอย่างชื่นมื่นด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแห่งความสุข สำหรับกิจกรรมในวันแห่งความรัก 14 กุมภาฯ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนราธิวาส "ร้อยรัก 100 ปี ที่นราธิวาส" (กิจกรรมจดทะเบียนสมรสหมู่โดยมีนกเงือกเป็นอนุสติแห่งความรัก)  ซึ่งจัดขึ้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา บาลา ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2558 ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 - 14.00 น. สำหรับปีนี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นปีแรก
 
S__221276
บรรยากาศลงทะเบียนของนักปั่นจักรยาน 2 ล้อ และคู่บาวสาว ณ เทศบาลตำบลบูเก๊ะตา
 
กิจกรรมเริ่มด้วยการลงทะเบียนนักปั่นจักรยานกว่า 300 ชีวิต  และคู่บ่าวสาวที่มาร่วมกิจกรรมจดทะเบียนสมรสหมู่ จำนวน 18 คู่ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ที่บริเวณลานกีฬาเทศบาลตำบลบูเก๊ะตา จากนั้น ได้เคลื่อนขบวนไปยังสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย เพื่อเข้าสู่พิธีการ
 
S__221275
เริ่มเคลื่อนขบวนสู่ขุนเขา
 
เวลาประมาณ 09.00 น.นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผวจ.นราธิวาส และนายสิทธิชัย ศักดา รอง ผวจ.นราธิวาส ได้มาเป็นประธานในพิธีและร่วมกิจกรรมปล่อยขบวนรถจี๊ปคู่บ่าวสาวและรถจักรยาน 2 ล้อ กว่า 300 คันจากสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์ฯ ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ระยะทางประมาณ 8 กม.
 
S__221274
บรรยากาศในงาน ท่าน ผวจ.นราธิวาส ให้สัมภาษณ์สื่อ
 
S__221273
บรรยากาศในงาน
 
มีกิจกรรมต่าง ๆ บนเวที และมีการจับสลากมอบของรางวัลให้แก่คู่บ่าวสาว นายอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส ได้ให้เกียรติมาจดทะเบียนสมรสให้แก่คู่บ่าวสาวด้วยตนเอง
 
เพื่อน ๆ ท่านใดสนใจ เรียนเชิญนะครับ กิจกรรมดี ๆ แบบนี้ปีหน้าพบกันใหม่ครับ

Saturday, February 7, 2015

สภ.บูเก๊ะตา


สวัสดีวันหยุดครับ วันนี้ผมนำภาพถ่าย "panorama" ปัจจุบันของ สภ.บูเก๊ะตา มาฝาก ใครที่เคยแวะมาเยี่ยมเยียนหรือขับรถผ่านคงจะจำได้ถึงความร่มรื่นของหมู่แมกไม้บริเวณรอบ ๆ โรงพัก
ตัวอาคารโรงพักเป็นอาคารไม้แบบโรงพักเก่า สร้างโดย ยูซอม (USOM: องค์การบริหารวิเทศกิจแห่งสหรัฐฯ = United States Operations Mission) ในยุคสงครามเย็น (ปัจจุบันคือ USAID) ส่วนโรงพักใหม่ อย่าไปพูดถึงเลยครับ ตอนนี้สร้างได้แต่ตอม่อและฐานล่างของอาคาร ในขณะที่โครงเหล็กเป็นสนิมไปหมดแล้ว แต่กระนั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคของการทำงานของพวกเราเลยครับ

Sunday, January 25, 2015

สายน้ำ..สายใยรัก


หมุดหลักสุดเขตแผ่นดินสยามที่ท่าข้ามลีแยะ บ้านนูโระ ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ฝั่งตรงข้ามของสายน้ำ คือ อ.ตาเนาะแมเราะ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
ความเป็นเครือญาติสายเลือดเดียวกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลถูกแบ่งแยกด้วยเส้นสมมุติบนแผนที่
แต่เปล่าเลย...เส้นสมมุติเส้นนี้ไม่อาจตัดขาดซึ่งความรักและความผูกพันธ์ระหว่างผู้คนท้ังสองฝั่ง มันกลับตอกย้ำถึงสายใยรักที่มีต่อกันประดุจสายโลหิตที่หล่อเลี้ยงร่างกายซึ่งไม่อาจตัดขาดจากกันได้...

Friday, January 16, 2015

อีกครั้งกับการเดินทาง


ระยะเวลา 2 ปีเต็มในภารกิจของตำแหน่ง "สารวัตรใหญ่" หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรจะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ของผมได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อ 14 ม.ค.2558 ประสบการณ์มากมายที่ได้รับจากการทำงานที่นี่มีคุณค่าต่อชีวิตผมมาก เพราะได้มีโอกาสรู้จักผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพ ได้สัมผัสปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวมลายูมุสลิม ได้เรียนรู้การบริหารงานตำรวจในฐานะหัวหน้าสถานีตำรวจ ได้เรียนรู้อุปนิสัยคน การปกครองบังคับบัญชาคน  การคลี่คลายคดีสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ การใช้ปฏิภาณไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่าง ๆ รวมทั้งการได้ทำงานร่วมกับเพื่อนตายสหายศึกข้าราชการตำรวจ สภ.จะกว๊ะ ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่สามารถกระทำได้ในระดับหนึ่ง
 
ผมเองทำงานคนเดียวไม่ได้ ผมและพี่น้องข้าราชการตำรวจ สภ.จะกว๊ะ ได้พิสูจน์ตัวเองจากความสามัคคีของหน่วยด้วยการคว้าชัยชนะในการประกวดการพัฒนาสถานีตำรวจในด้านต่าง ๆ ทั้งในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับ ศชต.และในระดับ ภ.จว.ยะลา หลายรายการ
 
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป ผมได้รับคำสั่งศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ 15/2558 ลง 9 ม.ค.2558 ให้ไปดำรงตำแหน่ง "รอง ผกก.ป.สภ.บูเก๊ะตา จว.นราธิวาส" ดูแลเมืองเล็ก ๆ ติดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ของ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งมีโอกาสที่จะขยายตัวเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญรองรับการขยายตัวของประชาคมอาเซียนในอนาคต
 
กระนั้น ผมไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งท้อแท้ตีโพยตีพายหรือน้อยใจต่อการกำหนดกฎสภาวะและกฎแห่งชะตากรรมหรือเพื่อถามหาเหตุผลที่ปกปิดอำพรางอยู่เบื้องหลัง ทว่าสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้าคือการเดินทางครั้งใหม่และความท้าทายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
 
เหล่านี้ เป็นเพียงบททดสอบเล็ก ๆ จากอัลลอฮ์บทหนึ่งที่ผมจะต้องก้าวข้ามผ่านพ้นไปให้ได้
 
ฟ้ากลางคืนจะมืดมิดที่สุดก่อนรุ่งอรุณ...
 
ไว้เจอกันที่บูเก๊ะตาครับ พี่น้อง

RevolverMap