Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Thursday, January 28, 2010

5th Day in Australia

เหมืองทอง Sovereign Hill ที่เมือง Ballarat, Captain cooks' cottage at the Fitzroy gardens, อนุสรณ์สถาน (War Memorial) Melbourne, ไปดูการจุดไฟริมแม่น้ำ Yarra
วันศุกร์ที่ 23 พ.ค. 2551
วัน หลัง ๆ ของการทัศนศึกษาดูงาน ตารางเวลาการเดินทางมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะกำหนดการภารกิจในการทัศนศึกษาดูงานที่มีลักษณะเป็นทางการต่าง ๆ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่วันแรก ๆ ของการเดินทาง หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ  ล้อหมุนออกเดินทางเวลา 09.30 น. เป้าหมายแรกของการเดินทางในวันนี้จะไปชมเหมืองทองเก่า “Sovereign Hill” เมือง Ballarat รัฐ Victoria ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต
IMG_4620  เมือง Ballarat IMG_4617เมือง Ballarat
IMG_4616ถึงแล้ว Sovereign Hill IMG_4511ก่อนเข้า Sovereign Hill
เมือง Ballarat เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐ Victoria เคยรุ่งเรืองในยุคตื่นทองช่วงประมาณปี 1851 (ราว พ.ศ.2394) เมื่อคลื่นมนุษย์นักขุดทองนับหมื่นรายต่างหลั่งไหลเข้ามาแสวงหาขุมทองคำ ซึ่งปัจจุบันยังคงสภาพร่องรอยของความเป็นเมืองที่เคยได้รับขนานนามว่า “ร่ำรวยที่สุด” ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องลักษณะคุ้นตาเหมือนกับที่เราเห็นในหนังเคาบอย และเหมืองทองเก่าที่เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของเมือง Ballarat ในอดีต


IMG_4513ภายในห้องจัดนิทรรศการ Sovereign Hill IMG_4518หุ่นจำลองก้อนทองคำที่ใหญ่ที่สุดที่ขุดพบ

พอเดินพ้นออกมาจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและห้องจัดนิทรรศการ ก็พบกับเมือง Sovereign Hill ซึ่งเคยรุ่งโรจน์ในอดีต ทางการของที่นี่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยมครับ
 
อาคารบ้านพักของ คนงานแสดงให้เห็นสภาพการใช้ชีวิตของคนงาน ร้านอาหารแบบดั้งเดิม ร้านค้า แหล่งบันเทิง ร้านขายรองเท้ารถม้าและโรงภาพยนตร์สมัยเก่า นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เห็นการจำลองชีวิตของผู้คนในเหมืองทองสมัยนั้นได้ อย่างครบถ้วน  ได้พบและสัมผัสกับการร่อนทองคำ ชมสาธิตการขุดทอง ทำให้ทราบถึงสภาพของการตั้งอาณานิคมยุคแรก ๆ ของออสเตรเลีย
 
IMG_4530ภายใน Sovereign Hill IMG-4602ภายใน Sovereign Hill
IMG_4540รถม้าแบบเก่าที่อนุรักษ์ไว้ IMG_4593ที่ทำการไปรษณีย์  ส่ง Postcard ได้ที่นี่
ผมมองตึกรามบ้านช่องสภาพเก่า ก็อดที่จะจินตนาการมองย้อนกลับไปถึงสภาพบ้านเมืองในยุคตื่นทองขณะนั้นไม่ ได้  คงจะมีแรงงานจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนจีนที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลหอบเสื่อ ผืนหมอนใบมาเป็นคนงานในเหมืองทอง ต้องทนทุกข์ตกระกำลำบาก กัดฟัน ต่อสู้ชีวิต ผู้คนแออัดยัดเยียด กระเสือกกระสนทำงานหนักมาร่อนทองที่นี่เพื่อแลกค่าแรงส่งกลับไปให้คนข้าง หลัง
IMG_4546บริเวณสายแร่ทองคำ IMG_4548นักท่องเที่ยวกำลังทดลองร่อนหาทองกัน
ไฮไลท์ของที่นี่ ก็น่าจะเป็นบริเวณลำธารเล็ก ๆ สายแร่ทองคำที่ให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองร่อนทองกัน  วิธีร่อนทองก็ไม่ยากครับ ใช้จอบตักกรวดทรายในลำธารใส่ลงบนกระทะแบนที่วางอยู่บริเวณนั้น จากนั้นใช้มือร่อนกระทะแล้วพยายามเอาก้อนหินและทรายออก ร่อนไปเรื่อย ๆ ปรกติทองจะมีน้ำหนักมากกว่า ก็จะอยู่นอนอยู่ก้นกระทะ ต้องสังเกตที่ก้นกระทะเพราะทองจะเป็นเศษชิ้นเล็ก ๆ (เล็กมากครับ) ผมลองร่อนแล้วแต่ก็ไม่เจอ  เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นั่งทดลองร่อนทองอยู่ข้าง ๆ ผมส่งเสียงฮือฮากันใหญ่ ฟังไม่ออกหรอกครับ แต่แสดงอาการเหมือนกับว่าเจอทองเข้าแล้วเลยตื่นเต้นกัน แฮ่ ๆ สนุกดี.. ^^
IMG_4603 เด็ก ๆ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าย้อนยุค
 
ผมสังเกตเห็นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ เด็ก ๆ และเยาวชนชาวออสซี่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าย้อนยุคมาทัศนศึกษากันพร้อมหน้าพร้อม ตาเข้ากับบรรยากาศของ Sovereign Hill ดีจัง ไกด์อธิบายให้ทราบว่าที่นี่มีการทำสัญญากับโรงเรียนในเมือง ให้เด็กนักเรียนมาเรียนหนังสือกันที่นี่โดยต้องแต่งกายชุดนักเรียนในสมัยยุค ตื่นทอง และมีการเรียนการสอนจริงในห้องเรียน พูดให้ง่าย ๆ เข้าก็คือให้เด็ก ๆ มาเรียนนอกสถานที่กันในบางวิชานั่นเองครับ  เป็นกุศโลบายที่ดีมาก ๆ ครับถือเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนรักและภาคภูมิใจในความเป็น “ชาติ” ได้อย่างน่ารักทีเดียว รัฐบาลไทยน่าจะลองศึกษาแล้วนำมาประยุกต์ใช้กับแหล่งโบราณสถานต่าง ๆ ในบ้านเราซึ่งมีหลากหลายกว่าใน Australia ดูบ้างนะครับ
 
ช่วงบ่าย ราว ๆ 4 โมงเย็น พวกเราเดินทางกลับเข้าไปที่ Melbourne เพื่อเข้าเยี่ยมชม Shrine of Remembrance อนุสรณ์สถานทางทหารของเมือง Melbourne เนื่องจากคนออสซี่ให้ความสำคัญกับวีรบุรุษสงครามของตนมาก จึงได้สร้าง “Shrine of Remembrance” เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเหล่าทหารหาญ 114,000 นายที่เสียชีวิตในสมรภูมิรบนับแต่สงครามระหว่างปี 1914 - 1918 ทั้งในออสเตรเลีย และที่เสียชีวิตในต่างแดน
IMG-4773 ความยิ่งใหญ่ของ “Shrine of Remembrance”
IMG-4791“Eternal Frame” ข้างหลังซ้ายมือผม ไกล ๆ
 
“Shrine of Remembrance” เป็นอนุสรณ์สถานทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ Victoria ตั้งอยู่บนเนินหญ้าสีเขียวสดสลับเหลืองของดอกเดซี่ บริเวณด้านหน้าซ้ายมือของตัวอาคารอนุสรณ์สถานมีกระถางคบเพลิงขนาดใหญ่ที่ ชื่อว่า “Eternal Frame”  (ชื่อเหมือนเพลงโปรดผมเลย^^)  เป็นเปลวไฟที่ไม่มีวันดับมอด เนื่องจากไฟจะถูกจุดไว้ตลอด 24 ชั่งโมง ทั้ง 365 วันของ 1 ปี  คงจะสื่อความหมายถึงดวงวิญญาณอมตะของเหล่าทหารหาญทุกนายที่ยอมสละชีพเพื่อ ประเทศชาติจะยังคงสถิตย์อยู่ในหัวใจของประชาชนทุกคนตราบกัลปาวสาน (ผมคิดเล่น ๆ ของผมเองนะครับ ^^)
ปิดท้ายสำหรับวันนี้ ด้วยการเดินทางไปชม “Cook’s Cottage” หรือ “กระท่อมกัปตันคุก” ในสวนฟิตซ์รอย หรือ “Fitzroy Garden”
 
Melbourne เมืองหลวงของรัฐ Victoria นอกจากจะมีสภาพอากาศที่แปรปรวน มีหลากหลายฤดูในหนึ่งวัน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางศิลปวัฒนธรรม หรือ “นครแห่งศิลปะ” และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของ Australia แล้ว  Melbourne ยังมีเสน่ห์น่าค้นหาอีกหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นเมืองสีเขียวที่ให้ความสำคัญกับสวนและพืชพรรณไม้ จนเคยได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ติดอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วยครับ
 
Fitzroy Garden เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของ Melbourne  ตั้งอยู่ที่บริเวณ Lansdowner Street ภายในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณไม้ร่มรื่นและดอกไม้นานาพันธุ์ที่ออกดอก สวยสะพรั่งตามฤดูกาล  คนออสซี่นิยมมาเที่ยวพักผ่อนกันเพราะมีบรรยากาศธรรมชาติที่ร่มรื่นสงบเงียบ มาก ๆ ครับ
 
 
ภายใน Fitzroy Garden  มี “Cook’s Cottage” หรือ “กระท่อมกัปตันคุก” ตั้งอยู่ภายในสวนเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ กัปตันเจมส์ คุก ผู้บุกเบิกทวีปออสเตรเลียในสมัยก่อตั้งอาณานิคม   เดิมทีกระท่อมหลังนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Yorkshire ประเทศอังกฤษครับ ตัวบ้านเป็นบ้านเก่าที่สร้างในปี ค.ศ. 1755 รัฐบาลอังกฤษมอบให้เป็นของขวัญแด่รัฐบาลออสเตรเลีย รื้อออกมาเป็นส่วน ๆ ส่งลงเรือแล้วย้ายนำมาประกอบติดตั้งใหม่ไว้ในสวนแห่งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระเมือง Melbourne ครบรอบ 100 ปี  ภายในบ้านจำลองบรรยากาศเหมือนเมื่อสมัยกัปตันคุกยังมีชีวิตอยู่ เปิดให้เข้าชมทุกวัน 0900-17.00 น.
IMG-4722“Cook’s Cottage” ในสวน Fitzroy
IMG_4687 “Cook’s Cottage” ระยะใกล้ครับ..
IMG_4700ภายใน “Cook’s Cottage” IMG_4701ห้องนอนกัปตันคุก
18.30 น. ไปรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ภัตตาคาร Shark Finn Inn (อาหารจีนตามเคย เริ่มรู้สึกหน้าเหมือนคนจีนเข้าทุกที) มื้อนี้พิเศษหน่อยมีหูฉลามด้วย  หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ  พวกเราในกลุ่มนัดกันไว้ว่าจะเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ Yarra ไปดูการจุดลูกไฟดวงใหญ่ริมแม่น้ำใกล้ ๆ กับสถานกาสิโน “Crown” เวลาประมาณ 21.00 น. (เพื่อน ๆ หลายคนมาถึง Melbourne คงได้มีโอกาสมาเสียเงินกันที่นี่ แต่สำหรับผมวันนี้ขอบายครับ จะไปดูการจุดลูกไฟอย่างเดียว) ก่อนที่จะถึงเวลา 21.00 น. มีเวลาอีกเหลือเฟือ  “Zaid” ไม่รู้หายไปไหน  ผมกับ “พี่จ๊วต” เลยออกไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อยไม่ไกลจากโรงแรมนัก เดินเข้าออกตามอาคารต่าง ๆ ทั้งห้างสรรพสินค้าในละแวกโรงแรมที่พัก สถานีรถไฟใต้ดิน ฯลฯ ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนยามค่ำคืน เพลินดีครับ
IMG_4837มื้อค่ำที่ภัตตาคาร Shark Finn Inn IMG-4847ท้องถนนเมือง Melbourne ยามราตรี
IMG-4895Flinders Street Station IMG-4890รถม้าให้บริการนักท่องเที่ยว
Flinders Street Station เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่และเก่าแก่แห่งหนึ่งของ Melbourne ตั้งอยู่บริเวณ Flinders Street คล้าย ๆ กับสถานีรถไฟหัวลำโพงในบ้านเรา ที่นี่จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่ตรงบริเวณสี่แยกและยังมี ลานกว้างไว้เป็นจุดนัดพบของบรรดาทัวร์ต่าง ๆ ด้วย
IMG_4883ในห้างสรรพสินค้า จำไม่ได้แล้วว่าห้างอะไร IMG_4851รถรางวิ่งให้บริการ
เวลาประมาณ 21.00 น.  ผมเดินกลับมาถึงที่โรงแรมตามที่นัดกันไว้เนื่องจากจะมีการจุดลูกไฟออกจากท่อ ข้าง ๆ แม่น้ำตลอดทั้งแนวทุก ๆ หนึ่งชั่วโมงจนถึงเที่ยงคืน พอถึงเวลานัดพวกเราทยอยเดินไปเป็นกลุ่ม ๆ จนถึงบริเวณดังกล่าวราว 4 ทุ่มพอดี เห็นลูกไฟลูกแรกพุ่งสว่างวาบออกมาจากท่อขึ้นไปกลางอากาศให้พวกเราได้ ตื่นเต้นฮือฮากัน
IMG-4923ลูกไฟลูกแรกพุ่งออกมาจากท่อ IMG-4925ลูกไฟขยายตัวใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น
IMG-4931ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ IMG_4935 สร้างความสว่างไสวและอบอุ่นทั่วบริเวณ

ลูกไฟลูกใหญ่ถูกพ่นออกมาจากท่อความสูงเท่ากับตึกสองชั้น ก่อนค่อย ๆ ขยายตัวเป็นลูกใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ในอากาศ  ความร้อนของเปลวไฟส่งผลให้พวกเราที่อยู่ใกล้ ๆ รู้สึกร้อนวูบวาบเป็นครั้งคราวตลอดการแสดง เห็นแล้วรู้สึกประทับใจไม่น้อย อากาศหนาว ๆ แบบนี้มีลูกไฟดวงใหญ่ลอยขึ้นมาทำให้คลายหนาวลงไปได้เยอะเลยครับ

เสร็จจากชมการจุดลูกไฟริมแม่น้ำ Yarra  พี่ ๆ เพื่อน ๆ หลายคนคงรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากเสียเงินเต็มที หลายคนเลยพากันเข้าไปเสี่ยงโชคต่อในสถานกาสิโน “Crown” ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้ ๆ กัน ส่วนผมกับ Zaid ขอบาย เดินกลับที่พักครับ

No comments:

Post a Comment

RevolverMap