4th Day in Australia

ชม วิวอ่าว Sydney ที่ The Gap, บ้านเศรษฐีบนเนินเขา Dudley Page, Bondi beach, จุดชมวิว Sydney Opera House  ณ  Mrs. Macquarie’s Point, ล่องเรือชมความงามของอ่าวซิดย์ และ Sydney Opera House กับเรือ Captain Cook Cruise

วันพฤหัสบดีที่ 22 พ.ค. 2551

เผลอ แป๊บเดียวพักค้างคืนใน Sydney มา 2 คืนแล้ว วันนี้พวกเรายังคงตะลอน ๆ อยู่ในนคร Sydney ทั้งวันก่อนที่จะขึ้นเครื่องเดินทางไปยัง Melbourne ในตอนค่ำ หลังจากตะลุยสำรวจในเมืองกันมาเยอะแล้ว วันนี้จะได้ไปเที่ยวชมนคร Sydney รอบนอกกัน

ตารางเวลาการเดินทางของ วันนี้ไม่แน่นเอี้ยดเหมือนวันแรก ๆ ที่เดินทางมาถึงออสเตรเลีย หลังจากที่ต้องตื่นแต่เช้าสู้อากาศหนาวกันมาหลายวัน ประกอบกับเมื่อคืนหลายคนกลับมาดึกดื่น  เช้านี้เลยตื่นสายได้เล็กน้อย ออกเดินทางสายนิดหน่อย ลงมา Check out จากโรงแรม รับประทานอาหารเช้าและขนสัมภาระขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นออกเดินทางกันตอนประมาณ 09.00 น.

Check out จากโรงแรม

ช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถหน้าโรงแรม

09.00 น. เดินทางไปชมทัศนียภาพของอ่าวซิดนี่ย์ และท้องทะเลสีครามของมหาสมุทรแปซิฟิคที่ The Gap  แม้ว่า  The Gap อาจจะมีชื่อเสียงไม่มากนักเมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อื่น ๆ ของนคร Sydney  แต่จากลักษณะที่โดดเด่นของมันที่เป็นชะง่อนผาสูงริมทะเล เหนืออ่าว Sydney ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้จากปริมาณของผู้ที่เสียชีวิตที่ตกจากหน้าผาทั้งจากอุบัติเหตุลื่น ล้มเอง และฆ่าตัวตายตกปีละประมาณ 20-30 ราย ทำให้ The Gap มีเสน่ห์เข้มขลังอย่างประหลาด 

ปัจจุบันทางการได้กั้นรั้ว และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย คงพอที่จะบรรเทาเบาบางความสูญเสียลงได้บ้าง  เสียดายครับว่าตอนจังหวะที่มาถึง The Gap นั้น  ดวงอาทิตย์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าพอดี ถ่ายรูปลำบากมาก

The Gap

อีกมุมหนึ่งของ The Gap

“The Gap” อันตรายที่ซ่อนอยู่ มาตรการความปลอดภัย เช่น รั้วกั้น และกล้องวงจรปิด ได้ถูกติดตั้งขึ้นที่ The Gap ที่ Watsons Bay เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการฆ่าตัวตาย

09.30 น. หลังจากชมทัศนียภาพ The Gap อยู่ได้สักครู่ใหญ่ ก็ต้องรีบขึ้นรถเดินทางต่อไปชมบ้านเศรษฐีบนเนินเขา Dudley Page  ชมทิวทัศน์อ่าวซิดนี่ย์ในอีกมุมหนึ่ง ไกด์บอกว่า ทิวทัศน์สวยกว่านี้อีก เอ้า..!  ไปก็ไป.. ^^

บ้านเศรษฐีบนเนินเขา Dudley Page กับทิวทัศน์อ่าวซิดนี่ย์

ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกครับ... ^^

10.00 น.  ขึ้นรถเดินทางต่อ ไปเยือน Bondi beach ชายหาดที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในออสเตรเลีย เป็นชายหาดที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางมากครับ  ชาวออสซี่นิยมมาใช้เป็นสถานที่เพื่อเล่นกระดานโต้คลื่น และเล่นน้ำเพื่อพักผ่อนหย่อนใจกัน

บ้านเรือนบนเนินเขาที่ Bondi beach

ตึกรามบ้านช่อง ที่ Bondi beach ปลูกเรียงรายลดหลั่นลงไปตามเนินเขาเล็ก ๆ   แลดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยดีครับ เห็นแล้วประทับใจที่คนออสซี่จัดระเบียบบ้านเมืองได้เรีบบร้อยดี ดูแล้วสบายตา

ช่วง ที่พวกเราเดินทางมาถึง Bondi beach เป็นช่วงเริ่มต้นหน้าหนาว เพราะฉะนั้นจึงแทบจะไม่เห็นนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำหรือนอนอาบแดดกันเลย แต่ก็ยังพอจะมีสาว ๆ ชาวออสซี่ออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายกันให้เห็นบ้างประปราย บางคนใส่บิกินี่เฉยเลย เอ..สงสัยจัง เจ้าหล่อนไม่รู้สึกหนาวบ้างหรือยังไงนะ...? 

“Bondi” เป็นคำในภาษาอะบอริจินิส มีความหมายว่า “น้ำซัดสาดเหนือโขดหิน” สันนิษฐานว่าคลื่นที่ซัดสาดตรงบริเวณโขดหินที่ปลายหาดทั้งสองด้านน่าจะเป็นเหตุผลให้ชาวอะบอริจินตั้งชื่อนี้ให้กับชายหาดของพวกเขา

“น้ำซัดสาดเหนือโขดหิน” ที่มาของคำว่า “Bondi” ภาษาอะบอริจินิส

คลื่นลมแรงบริเวณ Bondi beach

น้ำทะเลใสกับชายหาดสีครีม

ความกว้างใหญ่ของหาดทราย

สาวออสซี่ออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งท้าลมหนาว	นักเล่นกระดานโต้คลื่นมองหาทำเล
อากาศค่อนข้างหนาว แต่เธอคนนี้ใส่บิกินี่เฉย..^^	Bondi beach

หลังสูดอากาศ เย็นของหาด Bondi จนชุ่มปอด (เพราะมันหนาว^^) เวลาประมาณ 11.20 น. พวกเรานั่งรถเดินทางต่อไปยังจุดชมวิว Sydney Opera House  ณ  Mrs. Macquarie’s Point   บริเวณม้าหินตัวโปรดที่ Mrs. Macquarie ภรรยาของผู้สำเร็จราชการคนแรกของรัฐ New South Wales ชอบมานั่งชมวิวอ่าวซิดนี่ย์เป็นประจำในสมัยก่อน

จาก Mrs. Macquarie’s Point

จาก Mrs. Macquarie’s Point

หลังจากได้ชม ทัศนียภาพอ่าวซิดนี่ย์จนหนำใจแล้ว  หลังเที่ยงเล็กน้อยชักจะหิวแล้วสิ  พวกเราก็เดินทางต่อไปยัง Circular Quay ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญของอ่าวซิดนี่ย์ เพื่อที่ขึ้นเรือ Captain Cook Cruise ล่องเรือชมความงามของอ่าวซิดย์ และ Sydney Opera House รวมทั้งรับประทานอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์บนเรือ ซึ่งมีไวน์เสิร์ฟให้บริการ ใช้เวลาเดินทางไปกลับประมาณชั่วโมงครึ่งครับ ตอนที่เดินทางไปถึงท่าเรือ Circular Quay เป็นเวลาเที่ยงเล็กน้อย  เรือ Captain Cook Cruise ก็กำลังเข้าเทียบท่าพอดี

เรือ “Captain Cook Cruise”ลำนี้จะนำพวกเราล่องชมความงามของอ่าวซิดนี่ย์อย่างใกล้ชิด

ขณะยืนเข้าคิวขึ้นเรือ

ผมเห็นคณะทัวร์ จากจีนคณะใหญ่ขึ้นมาพร้อม ๆ กับพวกเราด้วย ส่งเสียงดังโขมงโฉงเฉงมาแต่ไกล หลังจากขึ้นเรือได้สักครู่  กับตันก็นำเรือออกสู่อ่าว Sydney บรรยากาศบนเรือดูอบอุ่นดีครับ ลูกเรือยิ้มแย้มแจ่มในดี ขนาดเรือค่อนข้างกว้างขวาง ลูกทัวร์จีนก็ไปนั่งอีกมุมหนึ่งของเรือ ส่วนผมพอหาที่นั่งได้สักครู่ก็ชักหิวแล้วสิ อาหารบนเรือเป็นอาหารแบบบุฟเฟต์ครับ มีทั้งอาหารฝรั่ง อาหารเอเชีย อาหารทะเล ให้เลือกตามใจ ผมไปตักอาหารทะเลมารับประทานมานั่งริมหน้าต่างกินไปพลาง ชมวิวไปพลาง ได้บรรยากาศ

บรรยากาศบนเรือขณะรับประทานอาหาร

หลังจากอิ่มแล้ว ขึ้นไปชมทิวทัศน์บนดาดฟ้าเรือ

ทัศนียภาพ Sydney Opera House กับอ่าวซิดนี่ย์

อีกมุมหนึ่งครับ..^^

14.30 น. หลังจากล่องเรือ Captain Cook Cruise ชมอ่าว Sydney กันจนเต็มอิ่มแล้ว  กัปตันนำเรือกลับเข้าไปจอดเทียบท่าที่่ท่าเรือ Circular Quay จากนั้นพวกเราไปช็อปปิ้งกันต่อที่ Paddy’s Market ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของนคร Sydney

Paddy’s Market

Paddy’s Market มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างซึ่งเป็นตลาดสด เปิดเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ มีทั้งผัก ผลไม้ ของสด ของแห้ง รวมทั้งของที่ระลึกหลากแบบ หลายราคา เช่น หมวกประเภทต่าง ๆ เสื้อผ้า พวงกุญแจ ตุ๊กตาเคาล่า ฯลฯ

เท่า ที่ผมเดินสำรวจ หยิบโน่นหยิบนี่ดู แรก ๆ ยังไม่ค่อยซื้อหรอกครับ ต้องสืบสวนหาข่าวก่อน  สินค้าส่วนใหญ่ Made in China ครับ คงเป็นเพราะว่าต้นทุนด้านแรงงานในจีนถูกกว่าในออสเตรเลียมาก เพราะตั้งราคาขายไม่แพงมาก แต่หากผลิตของที่ระลึก Made in Australia วางจำหน่าย ราคาสินค้าที่นี่คงจะแพงเอาการทีเดียว

ขายเสื้อผ้า

ส่วนชั้นสองและชั้นสามนั้น เป็นร้านเอาท์เล็ตกับซุปเปอร์มาร์เก็ต ลักษณะคล้าย ๆ กับตลาดจตุจักรบ้านเราดี ๆ นี่เอง  คุณสุภาพสตรีถ้าได้มาเดินช็อปปิ้งที่นี่คงจะตื่นเต้นกับที่นี่มาก ๆ

ก่อน เข้ามาที่ Paddy’s Market  ไกด์บอกว่า  ราคาสินค้าค่อนข้างตายตัวแล้ว ต่อรองไม่ได้  ผมก็เลยเดินดูแต่เฉพาะของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ซื้อของที่ระลึกฝากผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้องและแฟน หลายอย่าง ทั้งหมวก พวงกุญแจ ตุ๊กตาตัวเล็ก และบูมเมอแรงจำลองไว้ประดับฝาบ้าน  ผมลองต่อรองราคาดูเล่น ๆ เนื่องจากซื้อหลายอัน (เผื่อฟลุคลดได้) ปรากฎว่าได้ลดครับ  ราคารวม ๆ กันลดลงมาอีกหลายสิบเหรียญ.. ^^ (ความสามารถเฉพาะตัวครับ...)

ผม ซื้อครีมรกแกะบำรุงผิว ครีมนกอีมู และโอเมกา 3 (น้ำมันปลา สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก) ชนิดแคปซูลจากร้านคนไทยในละแวะนั้น มาฝากที่บ้านรวมกันหลายสิบกระปุก ^^

ร้านขายหมวก

ขายเสื้อผ้า รองเท้าขนสัตว์

ตกค่ำหลังจากที่ เดินช็อปปิ้งกันจนสองมือหิ้วกันพะรุงพะรัง พวกผมก็นั่งรถไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติ Sydney Kingford Smith หลังจากที่นอนพักใน Sydney มา 2 คืน เพื่อจะเดินทางไปยัง Melbourne เมืองหลวงของรัฐ Victoria และรับประทานอาหารมื้อค่ำกันที่นั่น  แต่ปรากฎว่าเมื่อเดินทางไปถึงท่าอากาศยานฯ เที่ยวบินของพวกเราเกิดปัญหาเครื่องดีเลย์ไปเกือบ 3 ชั่วโมง มิหนำซ้ำในเวลาต่อมาสายการบินยังยกเลิกเที่ยวบินเที่ยวนั้นด้วย ซวยจริง ๆ ครับที่ต้องไปติดแหง็กอยู่ที่ท่าอากาศยานแบบนั้น พวกเราทั้งหมดจึงต้องเปลี่ยนเที่ยวบินเป็นสายการบิน Jet Star  ซึ่งเป็นสายการบินภายในประเทศของ Australia เดินทางประมาณ 3 – 4 ทุ่ม  ส่วนอาหารมื้อเย็นก็ต้องเปลี่ยนแผนหาซื้อกินกันเองในท่าอากาศยาน

พวกเราเดินทางถึงท่าอากาศยานทูลามารีน เมือง Melbourne เวลาประมาณเกือบตีหนึ่งของวันที่ 23 พ.ค. 2551 ในสภาพที่ทุลักทุเลสะบักสะบอมเต็มที  เมื่อ Check in เข้าพักที่ โรงแรม Murcure Welcome เรียบร้อยแล้ว เดินถึงห้องพักอาบน้ำอาบท่านอนพักผ่อนครับ ผมไม่ออกไปไหนต่อแล้วครับ ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง งีบเอาแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ดีกว่า.. ^^