Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Sunday, May 18, 2025

#โตฮัน: #เสียงศรัทธาใต้สายลมโบราณแห่งแหลมมลายู

 #โตฮัน: #เสียงศรัทธาใต้สายลมโบราณแห่งแหลมมลายู



เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นและดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนานนับร้อยปีแล้ว


ในวันนี้…เมื่อเรามองไปยังปลายด้ามขวานของแผนที่ประเทศไทย ที่ชายแดนใต้ เราจะพบกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยบาดแผลและความเจ็บปวด


เสียงปืน เสียงระเบิด เสียงร้องไห้ของผู้คน

เป็นเสียงที่ลอยปะปนอยู่กับสายลมที่พัดผ่านนราธิวาส ยะลา และปัตตานี มาเนิ่นนาน


บางคนบอกว่านี่คือการต่อสู้เพื่ออัตลักษณ์ บ้างก็บอกว่านี่คือการก่อการร้าย (Terrorism)  


นักการทหารบอกว่า นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของความขัดแย้งที่เรียกว่า “สงครามอสมมาตร (Asymmetric Warfare)”  เอ็นจีโอบางคนบอกว่านี่คือรอยแผลของประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยสมาน  


มีบางคนพยายามโยงให้เป็นเรื่องของความขัดแย้งทางศาสนา


แต่ไม่ว่ามุมมองไหน…ความจริงก็คือ ลูกหลานของดินแดนเดียวกัน กำลังหันอาวุธเข้าหากันเอง


ในวันที่ผู้คนลืมไปแล้วว่า…

ใต้ความต่างของภาษา ศาสนา หรือสายเลือดที่เขียนใหม่

พวกเขาเคยมีบรรพบุรุษร่วมกัน  พวกเขาเคยมีหัวใจเดียวกัน


ในความคิดของผม   ถ้าเราอยากเข้าใจหัวใจของนักสู้เหล่านั้นจริง ๆ  เราคงต้องถอยหลังกลับไปไกลกว่ายุคล่าอาณานิคม  ให้ไกลกว่าการประกาศเขตแดน ไกลกว่าการแบ่งเส้นศาสนา


เราต้องกลับไปดู…ถึงวิธีคิดถึงโลก วิธีมองชีวิตของปู่ย่าตายายรุ่นโบราณที่ยังไม่มีเส้นขีดแบ่งชาติพันธุ์บนแผ่นดิน


เราต้องกลับไปฟังเสียงกระซิบของศรัทธาเดิม

ศรัทธาที่เรียบง่าย  ศรัทธาที่ไม่มีใบหน้าชัดเจน

ศรัทธาที่เรียกขานสิ่งสูงสุดด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุดคำหนึ่งในโลกมลายูว่า


“#โตฮัน”


******************************************


เราคงจะลืมเลือนกันไปแล้ว ว่าก่อนที่ศาสนาใหญ่ ๆ จะเดินทางมาถึงที่นี่  ก่อนที่พระอินทร์ พระพรหม หรือแม้แต่อัลลอฮฺจะถูกเอ่ยนามในแผ่นดินนี้


คนรุ่นก่อนหน้าเราหลายพันปี

เขามีศรัทธาในศาสนาโบราณของเขาอยู่แล้ว


ย้อนกลับไป ราวศตวรรษที่ 1 ถึงศตวรรษที่ 6

ในพื้นที่กว้างไกลที่วันนี้คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต่อเนื่องลงไปถึง กลันตัน ตรังกานู ในมาเลเซีย และไกลออกไปถึง สุมาตราตอนเหนือ  มีผู้คนที่ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย…อยู่กับทะเล ป่าเขา ลำน้ำ และท้องฟ้า


ในโลกของพวกเขา…

สิ่งสูงสุดที่พวกเขาเงยหน้ามอง และก้มหน้ากราบ…

ไม่ได้มีรูปร่างแบบที่เราเห็นในภาพวาดยุคหลัง

ไม่มีวัด ห้องโถง ไม่มีมหาเทวาลัย ไม่มีบทสวดที่ต้องท่องจำ


พวกเขาเรียกสิ่งนั้นง่าย ๆ ว่า “#โตฮัน”


******************************************


โตฮันของพวกเขา

ไม่ได้อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า

โตฮันอยู่ในสายฝนที่โปรยลงมาในวันที่ท้องนาแห้งผาก

อยู่ในลมเย็นที่พัดมาหลังพายุใหญ่

อยู่ในแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิต

อยู่ในเงาของต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นมานานกว่าชั่วอายุคน


มีแต่สายลมที่พัดเบา ๆ เหมือนกระซิบว่า


“ข้าอยู่กับเจ้าเสมอ ตั้งแต่เจ้าหัวเราะครั้งแรก จนถึงลมหายใจสุดท้ายของเจ้า”


******************************************


และเมื่อเราย้อนลงลึกไปกว่านั้น

จะพบว่าความเชื่อเรื่องโตฮัน ไม่ได้อยู่ลำพัง


โตฮัน…

คือสายเดียวกับที่ผู้คนในอุษาคเนย์เรียกขานว่า “แถน” หรือ “ผีฟ้า”  เป็นเทพเจ้าผู้สูงสุดบนฟากฟ้า


เป็นเสียงเดียวกับศรัทธาที่ไหลเวียนอยู่ในวัฒนธรรมของไท มลายู ลาว และเขมรโบราณ


คำว่า “โตฮัน” (Tuhan) ในภาษามลายู แปลว่า “เทวดาผู้ยิ่งใหญ่”  และในภาษามลายู–อินโดนีเซียโบราณ คำว่า “ปาริ” (pari) ก็หมายถึงเทวดาหรือวิญญาณนางไม้ เสียงนั้น…เมื่อเดินทางมาเป็นภาษาไทย  จึงกลายเป็นคำว่า “ผี” (phi) ที่เรารู้จักกันจนถึงทุกวันนี้


ในอดีตกาล  การบูชาผีฟ้า การฟ้อนลำผีฟ้า รวมถึงพิธีมะโย่งในคาบสมุทรมลายู ล้วนสะท้อนรากศรัทธาเดียวกันนี้


ศรัทธาที่ไม่เคยหายไป  แม้เวลาจะเปลี่ยนชื่อเสียงเรียกขานไปกี่ครั้งก็ตาม


******************************************


แล้ววันหนึ่ง…ศาสนาฮินดู–พุทธจากชมพูทวีปก็ค่อย ๆ เดินทางมาพร้อมเรือสินค้า


เริ่มจากปลายศตวรรษที่ 6 ต่อเนื่องถึงศตวรรษที่ 7 และ 8


เทพเจ้าที่มีรูปกายชัดเจน เริ่มมีบทบาทในตำนานที่เล่ากันใต้ต้นไม้  มีชื่อใหม่เกิดขึ้น — พระพรหม พระอินทร์ พระวิษณุ พระศิวะ


แต่ถึงกระนั้น…แก่นแท้ในหัวใจของผู้คนก็ยังไม่เปลี่ยน

โตฮันยังคงอยู่  แค่สวมเสื้อผ้าใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อเรียก


******************************************


อีกหลายร้อยปีต่อมา  ศาสนาอิสลามเดินทางมาถึงฝั่งมลายูในศตวรรษที่ 15  ด้วยเรือพ่อค้า ด้วยถ้อยคำที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง


“#ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺและมูฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์”


คนที่เงยหน้ามองฟ้า ก้มหน้ากราบพื้นดินมาแต่โบราณ

ไม่ได้รู้สึกแปลกแยกกับถ้อยคำนี้ เพราะในหัวใจพวกเขา โตฮันที่อยู่ในสายลมและฝน ก็เป็นพระเจ้าที่ไม่มีรูป ไม่มีตัวตนอยู่แล้ว


“โตฮัน” เปลี่ยนนามใหม่…เป็น “อัลลอฮฺ”

ในบทสวดขอดุอาอฺที่ก้องอยู่ในมัสยิดยามรุ่งอรุณ


แต่สายลม ฝน และแผ่นดิน…ยังคงโอบอุ้มพวกเขาอยู่เหมือนเดิม


******************************************


#หมายเหตุ   บ้านลำธาร์ ตำบลโคกสัก อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง  หมู่บ้านที่ผมเติบโตมา  ยังมีคำศัพท์ภาษามลายูหลงเหลืออยู่ในชีวิตประจำวันอีกหลายคำ


ผมรู้จักคำว่า “โตฮัน” ตั้งแต่ยังเด็ก  แต่ด้วยความเป็นเด็ก ด้วยความไม่รู้ จึงได้ยินแล้วออกเสียงเป็น “โต๊ะวัน” อย่างนั้นเอง — ซึ่งหมายถึงอัลลอฮฺ


จนเมื่อได้ศึกษาค้นคว้า จึงได้รู้ว่า… ”โต๊ะวัน“ ที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก คือชื่อของเสียงกระซิบเบา ๆ ของศรัทธาโบราณที่ยังหายใจอยู่ในสายลมของชีวิตเราทุกคน


#ความเข้าใจในศาสนาและประวัติศาสตร์คือหนทางในการดับไฟใต้


******************************************


“ใต้สายหมอกที่โอบกอดผืนป่า และเหนือขอบฟ้าที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด โตฮันยังคงดำรงอยู่อย่างเงียบ ๆ พร้อมทุกชีวิตที่เติบโตบนแผ่นดินนี้”

No comments:

Post a Comment

RevolverMap