Garden of Five Senses: สวนแห่งความรู้สึกและความรัก
ควันหลงจากวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก
เมื่อระหว่าง 6 มกราคม - 16 เมษายน 2559 เมื่อครั้งที่ผมยังรับราชการอยู่ที่ สภ.บูเก๊ะตา จว.นราธิวาส ผมมีโอกาสได้เดินทางไปฝึกอบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษ Certificate of proficiency in English and IT skills Course ตามโครงการ ITEC/SCAAP Programme/TCS of Colombo Plan/ICCR/Hindi Scholarship ณ กรุงนิวเดลฮี ประเทศอินเดีย เป็นระยะเวลา 2 เดือนครึ่ง ระหว่างฝึกอบรมมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ และดินแดนต่างๆ ภายในประเทศ
วันนี้เพิ่งผ่านพ้นวันแห่งความรักมาได้หนึ่งวัน ผมหวนระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ในอดีต “วันแห่งความรัก” 14 กุมภาพันธ์ 2559
ในวันนั้น ผมกับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติ ร่วมชั้นเรียน มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม Garden of Five Senses: สวนแห่งความรู้สึกและความรัก
เพียงแค่ได้ยินชื่อ Garden of Five Senses ก็คงพอจะเดาได้ว่าสวนแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสัมผัสทั้งห้า ดึงดูดให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติ ความหอมของมวลดอกไม้ เสียงกระซิบของสายลม และบรรยากาศที่อบอุ่นและรื่นรมย์
สวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 80,000 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวเดลี Pradeep Sachdeva และพัฒนาโดยการท่องเที่ยวเมืองเดลี ด้วยงบประมาณมหาศาลกว่า 105 ล้านรูปี ใช้เวลาก่อสร้างถึง 3 ปี ก่อนจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2546 สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม แต่ยังเป็นงานศิลปะที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติและงานออกแบบไว้อย่างลงตัว
สวนถูกแบ่งออกเป็นหลายโซน ตั้งแต่สวนสไตล์โมกุล สวนน้ำ สวนสมุนไพร ไปจนถึงสวนพลังงานแสงอาทิตย์ ทุกมุมล้วนถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับอารมณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความสงบ ความสดชื่น หรือความรู้สึกตื่นเต้นจากความงามรอบตัว
ค่าธรรมเนียมเข้าชมเพียง 30 รูปี ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ทว่าระหว่างที่เราเยี่ยมชม สวนแห่งนี้กลับขาดน้ำ บ่อน้ำและสระน้ำต่างๆ แห้งเหือด ทำให้ต้นไม้และแปลงดอกไม้บางส่วนเหี่ยวเฉา ความงดงามที่ควรจะมีจึงลดลงไปบ้าง แต่ถึงกระนั้น สวนสาธารณะแห่งนี้ ก็ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์มนต์ขลังและบรรยากาศที่ชวนให้หลงใหล
สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจที่สุดคือ ขณะที่เดินไปในสวนวันนั้น เกือบลืมไปแล้วว่า วันนี้คือ 14 กุมภาพันธ์—วันวาเลนไทน์! วันแห่งความรัก กลิ่นไอความรักอบอวลไปทั่วสวน เมื่อเดินเข้าไปลึกขึ้น ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือคู่รักนับไม่ถ้วนที่นั่งใกล้ชิด กอดกันกระหนุงกระหนิง บ้างก็นั่งจับมือกันใต้ต้นไม้ บ้างก็กระซิบถ้อยคำหวานๆ ให้กันและกัน บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความรักและความโรแมนติก
แต่สิ่งที่ทำให้ผมทั้งขำและเขินไปพร้อมกันก็คือ คู่รักบางคู่ดูจะลืมไปว่านี่คือสวนสาธารณะ ไม่ใช่ห้องส่วนตัว หลายคนหลบมุมกันในพุ่มไม้ นั่งซบกันแนบแน่นจนแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียว ไม่ใช่แค่คู่สองคู่ แต่มีเป็นร้อย! และดูเหมือนว่าแต่ละคู่ก็ไม่ได้สนใจว่ามีคนอื่นเดินผ่านไปผ่านมา มีเพียงผมและเพื่อนๆ เท่านั้นที่เดินไปก็เขินไป
มีบางครั้งที่เราเดินไปเจอมุมที่ไม่ควรเข้าไป แล้วต้องรีบถอยหลังกลับออกมาแทบไม่ทัน ขณะที่ผมมองดูภาพตรงหน้าก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมเขาไม่ไปเปิดโรงแรมให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลยนะ?
แม้ว่าธรรมชาติของสวนจะดูแห้งแล้งไปบ้างในวันนี้ แต่ความรักของผู้คนที่มาเยือนกลับเบ่งบานอย่างเต็มที่ Garden of Five Senses จึงไม่ใช่แค่สถานที่ที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า แต่ยังเป็นสวนแห่งความรู้สึก ที่ทำให้เราได้เห็นความรักในทุกรูปแบบ—ความหวาน ความลึกซึ้ง และบางครั้งก็ความขำขัน ที่ทำให้วันนี้กลายเป็นวันที่น่าจดจำอีกวันหนึ่ง
No comments:
Post a Comment