ชนชาติมลายู “นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่”
หลายครั้งที่ผมมีได้ไปเยี่ยมเยียนพบปะพี่น้องประชาชนตามหมู่บ้านหรือตามมัสยิดต่างๆ เมื่อมีโอกาสมักจะเล่าให้พี่น้องฟังอยู่เสมอว่า ผมภูมิใจที่เป็นลูกหลานชาวมลายู แม้กาลเวลาและระยะทางจะทำให้ผม และญาติพี่น้องที่ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ในปัจจุบัน ไม่สามารถพูดมลายูได้อีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อสืบค้นบรรพบุรุษย้อนหลังกลับไป พบว่า ปู่ย่าตายาย ที่แม้บางสายอาจจะเป็นคนจีน (อำแดงสร้อย ณ สงขลา, แก่ดวง ณ ไพรี) คนสยาม หรือแม้แต่เปอร์เซียบ้าง (ณ พัทลุง) แต่บรรพบุรุษส่วนใหญ่ของผมมาจาก 4 รัฐมาลัยในอดีต ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย คือ “ปะลิศ (แก่หรอ บิลยีหลี) กลันตัน (แก่แอ ดลระหมาน) ตรังกานู (หะยีอุมาร์ บินหะยีวันอะหมัด (โต๊ะชายนาย)) และไทรบุรี (บิลหมาด-เพ็ญอำมาศ)
หลายคนคงจะสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร???
เหตุผลที่ชาวมลายูเป็นนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่:
-ชนชาติมลายู มีต้นกำเนิดจากหมู่เกาะและชายฝั่งทะเล
-ชาวมลายูตั้งถิ่นฐานบริเวณคาบสมุทรมลายู อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินเรือ
-ชาวมลายูในยุคบรรพกาล ใช้เรือแบบดั้งเดิม (Perahu และ Jong) – สามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกได้
-เป็นผู้ควบคุมเส้นทางการค้าสำคัญ – อาณาจักรศรีวิชัย (ศตวรรษที่ 7-13) ควบคุมช่องแคบมะละกา ทำให้ชาวมลายูเป็นผู้เชื่อมโยงการค้าระหว่างจีน อินเดีย และโลกอาหรับ
-อีกทั้งได้รับอิทธิพลจากชาวอาหรับและอินเดีย – พัฒนาเทคนิคการเดินเรือและการค้า
ตัวอย่างความสามารถของชาวมลายูในประวัติศาสตร์:
-อาณาจักรศรีวิชัย (ศตวรรษที่ 7-13) – เป็นศูนย์กลางการเดินเรือและพุทธมหายาน
-อาณาจักรมะละกา (ศตวรรษที่ 15-16) – เป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลและการเผยแพร่อิสลาม
-ชาวมลายูในมาดากัสการ์ – เป็นหลักฐานว่าชาวมลายูสามารถเดินเรือข้ามมหาสมุทรไปตั้งถิ่นฐานในแอฟริกาได้
ด้วยเหตุนี้ ชาวมลายูจึงได้รับฉายาว่าเป็น “นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่” เพราะเป็นผู้ควบคุมเส้นทางการค้าทางทะเลที่สำคัญที่สุดของเอเชีย และสามารถเดินเรือไปยังดินแดนไกลโพ้นได้
No comments:
Post a Comment