ภาพถ่ายนี้มีอายุประมาณ 50-60 ปีมาแล้ว สุภาพสตรีคลุมฮิญาบแบบมุสลิมในภาพ ชื่อ “นางไหมมูหน๊ะ ดลระหมาน” หรือ “มุหน๊ะ” หากมีชีวิตยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันก็น่าจะมีอายุสักประมาณ 125 ปีเศษ ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงรัชสมัย ร.5-ร.6 นามสกุล “ดลระหมาน” เป็นนามสกุลสามี “นายแอ ดลระหมาน” ซึ่งนั่งเคียงคู่กันอยู่ในภาพ ผู้ซึ่งบรรพบุรุษของท่านโยกย้ายมาจากรัฐกลันตัน (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย) ส่วนเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางคือ “นายเรน ดลระหมาน” เป็นบุตรคนสุดท้องของทั้งสองท่าน
“นางไหมมูหน๊ะ ดลระหมาน” หรือ “มุหน๊ะ” มีนามสกุลเดิม “บุตรรักษ์” บิดาชื่อ “นายบุตร หรือขุนบุตร หรือกำนันบุตร บุตรรักษ์” นามสกุลเดิม “ณ พัทลุง” ส่วนบิดาของนายบุตร หรือขุนบุตร หรือกำนันบุตร ชื่อ “ขุนรักษ์ หรือขุนนุรักษ์ ณ พัทลุง” ลูกหลานสุลต่านสุไลมาน ชาห์
นางสะหน๊ะ บุตรรักษ์ แต่งงานกับนายแอ ดลระหมาน มีบุตรด้วยกัน ดังนี้
1 นายหมาน ดลระหมาน
2 นายหีม ดลระหมาน
3 นางโฉม ดลระหมาน แต่งงานกับนายวะหาบ หรือถาบ ยีหวังกอง ซึ่งต่อมาคือ “ย่าทวด” และ “ปู่ทวด” ของน้องนวี
4 นางแหมะ ดลระหมาน
5 นายเรน ดลระหมาน
***************
ขุนรักษ์ หรือขุนนุรักษ์ ณ พัทลุง เป็นชาว ต.ตะโหมด จ.พัทลุง นับถือศาสนาพุทธตามบรรพบุรุษของท่านซึ่งเดิมนับถือศาสนาอิสลามแล้วเปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ ท่านแต่งงานกับนางเหรียม คงหนู เป็นมุสลิมบ้านอยู่ที่โคกแต้ว (บางแก้ว) ต.ท่ามะเดื่อ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง (ในขณะนั้น ต่อมาได้แยกการปกครองออกมาเป็น อ.เขาชัยสน ต่อมาเป็น อ.บางแก้ว จ.พัทลุง)
ท่านกับนางเหรียมฯ มีบุตรด้วยกัน 8 คน ดังนี้
1 นายบุตร หรือขุนบุตร ณ พัทลุง
2 นายไกร หรือขุนไกร ณ พัทลุง
3 นายสงค์ ณ พัทลุง
4 นายขำ ณ พัทลุง
5 นายเมียด ณ พัทลุง
6 นางสาวหย่อง ณ พัทลุง
7 นายเอียด (ฉายาน้าตัวเอียด) ณ พัทลุง
8 นายดำ หรือขุนดำ ณ พัทลุง
***************
ในจำนวนพี่น้อง 8 คน ดังกล่าว มี 6 ท่านได้ตั้งนามสกุลใหม่ โดยบางท่านนำชื่อของตนตั้งเป็นพยางค์แรก สนธิกับชื่อบิดา คือ “รักษ์” ตั้งเป็นพยางค์ท้าย และมีบางท่านตั้งนามสกุลใหม่ ตามลำดับสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
1 ขุนบุตร ณ พัทลุง ~~> บุตรรักษ์
2 ขุนไกร ณ พัทลุง ~~> ไกรรักษ์
3 นายสงค์ ณ พัทลุง ~~> ขุนนุรักษ์
4 นายขำ ณ พัทลุง ~~> ขำนุรักษ์
5 นายเอียด (ฉายาน้าตัวเอียด) ณ พัทลุง ~~> จุลภักดิ์
6 ขุนดำ ณ พัทลุง ~~> ดำรักษ์
เลือดเนื้อเชื้อไข “ณ พัทลุง”
Credit ประวัติสายตระกูล: กฤต วงศ์ษาวิจิตรภักดี รัตนบุรี
No comments:
Post a Comment