หลักการศรัทธาประการที่ 4 จากหลักการศรัทธาทั้ง 6 ประการ ของศาสนาอิสลาม กล่าวว่า มุสลิมต้องศรัทธาในบรรดานบี (ศาสดา) ทั้งหลาย
มุสลิม ต้องยอมรับนับถือศาสดาทั้งหลายที่มาเทศนาก่อนนบีมุหัมมัด (ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) ไม่ว่าศาสดาเหล่านั้นจะปรากฎชื่ออยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานหรือไม่ก็ตาม
ไม่ว่าศาสดาเหล่านั้น จะเป็นคนชนชาติใด อยู่ที่ไหน พูดภาษาอะไรก็ตาม มุสลิม ต้องให้เกียรติยกย่องศาสดาเหล่านั้นอย่างเท่าเทียมกัน
นบีมุหัมมัด (ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) เป็นศาสดาคนสุดท้ายของโลก ที่มารับภารกิจต่อจากศาสดาคนก่อน ๆ ที่เชิญชวนมนุษย์ให้รู้จักพระเจ้า และ ดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์
ท่านนบีมุหัมมัด (ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) ได้กล่าวว่า หลังจากท่านแล้วจะไม่มีศาสดาเกิดขึ้นมาอีก เพราะถือว่า ท่านได้นำคำสอน หรือ แนวทางแห่งการดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์มาสู่มนุษยชาติแล้ว
ในโลกยุคใหม่ที่มีการพัฒนาของสื่อในทุก ๆ ด้าน เรามักจะได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับศาสดาของศาสนาหรือลัทธิแปลกประหลาดเกิดขึ้นมากมายครั้งแล้วครั้งเล่า
ในญี่ปุ่น ทางการญี่ปุ่นเคยจับกุมดำเนินคดีนายโชโกะ อาซาฮาร่า ผู้ซึ่งอ้างตัวเป็นศาสดาลัทธิโอมชินริเกียว ซึ่งวางแผนใช้แก๊สซารินก่อวินาศกรรมเพื่อเข่นฆ่าทำลายล้างคนญี่ปุ่น เมื่อหลายปีก่อน
ในจีน ลัทธิฝ่าหลุนกง เป็นลัทธิต้องห้าม
ในอเมริกา ดินแดนแห่งโลกเสรี ลัทธิ "ไซแอนโทโลจี้" ที่ทอม ครูซ ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังเลื่อมใส ก็เป็นมูลเหตุสำคัญ ที่ทำให้ เคธี่ โฮล์มส์ ผู้เป็นภรรยา ตัดสินใจฟ้องหย่าเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวถูกบังคับเข้ารีตเป็นสมาชิกของลัทธิประหลาดนี้
ผู้นำและประมุขหลายประเทศพอใจที่ได้รับการอวยและยกย่อง เพื่อให้ผู้คนได้จดจำว่า ตนเป็นสมมติเทพหรือพระโพธิสัตว์อวตารลงมา
มุสลิมที่ดี จะรู้ว่า ศาสดาเหล่านี้ ล้วนเป็นศาสดาจอมปลอมทั้งสิ้น
No comments:
Post a Comment