Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Monday, May 3, 2010

การก่อความไม่สงบ

IMG_3645ก่อนอื่น เราย้อนกลับมาดูคำนิยามของถ้อยคำแต่ละคำก่อนครับว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร..?

“การก่อความไม่สงบ” (Insurgency) ความหมายโดยทั่ว ๆ ไป เป็นการเคลื่อนไหวของขบวนการ ที่มุ่งประสงค์ที่จะล้มล้างอำนาจรัฐที่มีอยู่เดิม เป้าหมายอาจต้องการเพียงแยกตัวออกจากการควบคุมของรัฐบาล ถึงการเข้ายึดอำนาจและเข้าแทนที่รัฐบาลปัจจุบัน โดยการใช้การบ่อนทำลายหรือการต่อสู้ด้วยอาวุธ ความรุนแรงไม่ถึงขั้นสงครามกลางเมือง

พูดให้ง่ายเข้าก็คือ เป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มผู้อยู่ใต้ปกครองกับกลุ่มที่มีอำนาจในการปกครอง โดยมีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองตามความต้องการของตน

ในการปฏิบัติการก่อความไม่สงบนั้น “จุดมุุ่งหมายหลักของกลุ่มก่อความไม่สงบจึงมิใช่การเอาชนะทางการทหาร แต่มุ่งเอาชนะด้วยการทำลายอำนาจและการบริหารประเทศของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งขีดความสามารถของรัฐในการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน”

เป้าหมายปลายทางของการก่อความไม่สงบจะมีลักษณะเหมือนกันทั่วโลกคือ การล้มล้างอำนาจรัฐที่อาจนำไปสู่การแบ่งแยกดินแดน  หรือ การทำสงครามปฏิวัติ ดังตัวอย่างที่เราได้เห็นจากการต่อสู้ในอดีต  การก่อความไม่สงบเป็นการดำเนินการที่มีขั้นตอน ตามที่ปรากฏอยู่ในหลักนิยมการปราบปรามการก่อความไม่สงบของกองทัพสหรัฐฯ 3 ขั้น ได้แก่

  1. ขั้นเริ่มต้นและซ่อนเร้น (Latent and Incipient): ในขั้นนี้จะเป็นเริ่มต้นดำเนินกิจกรรมต่าง โดยทั่วไปแล้วจะเป็นการบ่อนทำลายเพื่อสร้างเงื่อนไขให้มีระดับความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
  2. ขั้นสงครามกองโจร (Guerrilla Warfare): เมื่อได้รับการสนับสนุนอย่างเพียงพอแล้วจะจัดตั้งกองโจรเข้าดำเนินการก่อความไม่สงบด้วยความรุนแรงอย่างเป็นระบบ (เน้นการต่อสู้ด้วยกองโจร)
  3. ขั้นสงครามขบวนการ (War of Movement): เมื่อฝ่ายก่อความไม่สงบมีความเข้มแข็งมากขึ้น จะทำสงครามขบวนการโดยใช้กำลังที่เตรียมไว้เข้าสู้ต่อสู้กับกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลโดยตรง เช่น การเข้ายึดพื้นที่สำคัญ การเข้าตีหน่วยทหารด้วยกำลังขนาดใหญ่ (มีการทำสงครามตามแบบ  มีการยึดพื้นที่)

หากยึดถือตามหลักนิยมข้างบนนี้ อาจกล่าวได้ว่า การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังอยู่ในขั้นที่ 2  “ขั้นสงครามกองโจร (Guerrilla Warfare)” นั่นเอง ลักษณะการต่อสู้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีการสะสมกำลังพล ตระเตรียมอาวุธ มุ่งที่จะทำสงครามประชาชน แย่งชิงความคิด แย่งชิงประชาชน ทำสงครามกองโจรอย่างยืดเยื้อ ไม่ได้มุ่งหวังจะเอาชนะการรบให้แตกหักในทันทีทันใด ในขณะเดียวกันก็พยายามยกระดับการต่อสู้ขึ้นไปสู่เวทีสากล เช่น “OIC” หรือองค์การการประชุมอิสลาม (Organisation of The Islamic Conference : OIC) เรียกง่าย ๆ ว่า "องค์กรมุสลิมโลก" ที่มีสมาชิกจากชาติมุสลิม 57 ประเทศ  หรือองค์การสหประชาชาติ ให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อนำไปสู่การเจรจาแก้ปัญหาโดยจัดการแบ่งแยกดินแดนปกครองตนเองในที่สุด

เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น มีทั้งลอบฆ่าเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ใช้อาวุธโจมตีที่ตั้งหน่วยทหารตำรวจ ฆ่าครู ฆ่าพระเผาวัด ฆ่าแล้วตัดศีรษะ ลอบวางระเบิด ฯลฯ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นความรุนแรงที่รัฐบาลให้คำนิยามไว้ว่าเป็น “การก่อความไม่สงบ” ทั้งสิ้น

No comments:

Post a Comment

RevolverMap