Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Saturday, March 17, 2012

ครบรอบ2ปีการจากไปของ “จ่าเพียร”

jeh695i9dbbf9a9gba6kc

ที่มา: คมชัดลึก

ครบรอบ2ปีการจากไปของ'จ่าเพียร'

ทำบุญครบรอบ 2 ปี การจากไปของ “จ่าเพียร” ด้าน 'ผกก.บันนังสตา' สร้างแนวคิดหวังให้เกิดสันติสุขในพื้นที่

13 มี.ค.55 ที่สถานีตำรวจภูธร อ.บันนังสตา จ.ยะลา  พ.ต.อ.สุวัตต์ วงศ์ไพบูลย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร บันนังสตา เปิดเผยถึง การทำงานในช่วง หลัง 2 ปี แห่งการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.สมพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภบันนังสตา เมื่อ วันที่ 12 มีนาคม 2553 ว่า หลังจาก อดีต ผกก.สมเพียร ได้เสียชีวิตลง ตนเองได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้มาปฎิบัติหน้าที่ เป็น ผกก.สภ.บันนังสตา แทน เมื่อวันที่ 16 มิ.ย 53

ขณะที่มาปฎิบัติหน้าที่ นั้น พื้นที่ อ.บันนังสตา มีกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ระเบิด ซุ่มโจมตี และมีการเสียชีวิตทั้งผู้กองแคน ผู้พันเขียว หมวดตี้ ในพื้นที่บันนังสตา และ คนสุดท้ายก็เป็น พ.ต.อ.สมพียร และพ.ต.อ.โสภณ อินทรบวร (พลขับ) ซึ่งช่วงที่ตนมาปฎิบัติหน้าที่ใหม่ๆ ก็มีความเครียดในหลายเรื่อง และยังเกิดความระส่ำของลูกน้อง ซึ่งไม่มีหัวหน้า รวมทั้ง ตนเองก็ยังคิดว่าจะปฎิบัติหน้าที่ได้เหมือนผู้กำกับฯ สมพียร ได้หรือไม่ และจะทำอย่างไรที่จะคืนความสงบสุขแก่ อ.บันนังสตา จึง ได้มีการประชุม ร่วมพูดคุยกับผู้ใต้บังคับบัญชา โดยได้นำนโยบายของ ศชต. “เข้มแข็ง อำนาจรัฐ ปฎิบัติยุติธรรม เลิศล้ำงานมวลชน” มาใช้ ในการปฎิบัติงานในพื้นที่ อ.บันนังสตา แทน ซึ่ง อาจจะแตกต่างไปจากผู้กำกับฯ สมเพียร พร้อมนำแนวทางสันติ มวลชนสัมพันธ์ มาทำงาน โครงการแรกที่ได้เริ่มทำงาน คือ โครงการร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว และใช้นโยบายว่า ไม่ว่าจะเป็นตำรวจสืบสวน ตำรวจปราบปราม ตำรวจจราจร หรือ ผกก.เอง ก็ต้องมีงานมวลชนเป็นหลัก นอกจากนั้น ยังได้กำหนดโครงการอีกหลายโครงการ เช่น โครงการตำรวจ วัด มัสยิด ร่วมคิด ร่วมสร้าง ทางสันติ รวมทั้ง โครงการกลับบ้านเรารักรออยู่ ซึ่งโครงการนี้ มี ผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับแกนนำ เข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก

“จะเห็นได้ว่าจากการที่ได้นำงานมวลชนมาใช้ คดีความมั่นคง ปี 2553 ถึงปี 2554  สามารถลด คดีด้านความมั่นคง ได้ 27 คดี ใน ปี 2554 โดยใช้ตัวชี้วัด ทั้งปริมาณ คดีลดลง และคุณภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือ จากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ให้ความร่วมมือ ในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด คนร้าย รวมทั้ง ได้รับความร่วมมือจากหน่วยกำลังในพื้นที่ ในการนำกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เข้ามาแสดงตัวมารายงานตน นอกจากนั้น ยังได้นำนโยบายของ ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 นโยบาย ของ ผบช.ศชต.มาใช้ ซึ่งพบว่า ได้รับความพึงพอใจจากทางญาติ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้นำบุคคลเหล่านี้ มามอบตัวกับทาง เจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน อ.บันนังสตา มีร้านค้าเพิ่มขึ้น และมีความครึกครื้น กว่าเดิม ซึ่งโครงการต่างๆ ที่ สภ.บันนังสตา ได้ นำมาใช้ ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ปกครอง โดยเฉพาะ ทหารพราน ในพื้นที่  ทำให้เหตุการณ์ในพื้นที่ อ.บันนังสตา มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น” ผกก.สภ.บันนังสตา กล่าว

พ.ต.อ.สุวัตต์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนงานด้านการปราบปรามนั้น ทางสภ.บันนังสตา ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง มีการเข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย ติดตามจับกุม กรณีมีเป้าหมายก็ยังดำเนินการ และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยยึดใช้กฎหมายเป็นหลัก หาพยานหลักฐาน และนำนิติวิทยาศาสตร์มาช่วย เรื่องออกนอกกรอบของกฎหมายก็จะไม่ทำ ซึ่งถ้าใช้ วิธีนี้ จะทำให้มี เงื่อนไขไม่สิ้นสุด และจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่

ด้าน ส.ต.อ.กิตติวุฒิ ปาแว ผบ.หมู่ (ป) สภ.บันนังสตา/ปฎิบัติงานด้านมวลชนสัมพันธ์ ซึ่งปฎิบัติงานร่วมกับ พ.ต.อ.สมพียร ตั้งแต่ปี 2547 กล่าวว่า ท่าน ผกก.สมเพียร เป็นคนทุ่มเท กับการทำงานและไม่เคยทอดทิ้ง ลูกน้อง ท่านจะเน้นในเรื่องของการปราบปรามเป็นหลัก ที่ผ่านมาหลัง ผกก.จากไป ทุกคนที่ได้ร่วมงานกับ ท่าน รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ส่วน ท่าน ผกก.สุวัตต์ นั้น ท่านจะเน้นงานมวลชนสัมพันธ์ เป็นหลัก ให้เกียรติกับชาวบ้านให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกันทุกศาสนา และมีโครงการที่เน้นด้านงานมวลชนเป็นหลักปฎิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการไปเยี่ยม มัสยิด ผู้นำศาสนา ประชาชนในพื้นที่ โดยการเข้าไปแต่ละครั้งก็จะไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และนำตำรวจที่นับถือศาสนาอิสลามไปร่วมละหมาด ร่วมพบปะพูดคุย โดยจะนำเจ้าหน้าที่ทหาร ปกครอง ไปด้วย จึงทำให้บันนังสตา ทุกวันนี้ เหตุการณ์เบาบางลงไป        

No comments:

Post a Comment

RevolverMap