ตำรวจมาเลเซีย ลงนามข้อตกลงปราบปรามอาชญากรรมร่วมกับตำรวจไทยใน 11 ปัญหาหลักทั้ง “ก่อการร้าย-ค้ามนุษย์-ค้าอาวุธ-ยาเสพติด” ขณะที่ ผบ.ตร.มาเลเซีย ย้ำ อาชญากรรมข้ามชาติเป็นภัยคุกคามหลัก ชี้ หากทั้ง 2 ประเทศปรับรูปแบบกวาดล้างจะทำให้ยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้นได้
วันนี้ (28 ก.พ. 2555) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่โรงแรมเซนทาราแกรนด์ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย และ อิค ตันศรี อิสมาอิล บิน ฮัจญี โอมาร์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย ฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนตำรวจมาเลเซีย แถลงภายหลังการประชุมร่วมกันในระดับผู้บริหารระหว่างตำรวจไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 21 โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งได้มีการลงนามในการทำข้อตกลงร่วมกันในการหารือทั้งหมด 11 เรื่อง ได้แก่ การก่อการร้าย การลักลอบค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ การลักลอบค้าอาวุธ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามแนวชายแดน ความคืบหน้าในการส่งคืนของกลางระหว่างสองประเทศ การประสานงานด้านการข่าว การกระทำความผิดด้านการข่าว การกระทำผิดในน่านน้ำ และการกระทำอันเป็นโจรสลัด การสนับสนุน และประสานให้ความร่วมมือในการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลตามจุดผ่านแดนต่างๆ และดำเนินการแจ้งข้อพิรุธที่ตรวจพบให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร และคณะกรรมการความร่วมมือด้านอาชญากรรมประเภทต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รวมถึงพัฒนาด้านศักยภาพในการร่วมกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของทั้ง 2 ประเทศต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้มีการพูดถึงการส่งตัวนาย Masoud Sedaghatzadeh อายุ 31 ปี ที่หลบหนีไปประเทศมาเลเซียแต่อย่างใด
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า หลังจากได้ลงนามในข้อตกลงระหว่างกันแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซียต้องทำงานร่วมกัน โดยต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานก็ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาโดยตลอด ซึ่งทุกอย่างดำเนินการร่วมกันมาโดยตลอดอยู่แล้ว
ด้าน นายอิค ตันศรี อิสมาอิล บิน ฮัจญี โอมาร์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาประชุมในครั้งนี้ โดย ประเด็นที่หารือจะเป็นในด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งมีรูปแบบการก่ออาชญากรรมที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้ในการก่ออาชญากรรม
“ตำรวจเองต้องปรับปรุงรูปแบบการปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะด้านยาเสพติดและการลักลอบค้ามนุษย์ข้ามชาติ ซึ่งได้หาวิธีทางในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือกันให้เป็นรูปธรรม โดยตำรวจไทยและมาเลเซียได้หาวิธีการเรียนรู้ร่วมกัน หากตำรวจเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการปราบปรามอาชญากรรมได้ จะทำให้ยับยั้งอาชญากรรมและอาชญากรข้ามชาติได้” ผบ.ตร.มาเลเซีย กล่าว
ที่มา: ตร.ไทย-มาเลย์ จับมือกวาดล้างก่อการร้าย-อาชญากรรมข้ามชาติ