ที่มา: Thairath 12 มิ.ย. 50 - 13:54
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.) ขณะเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตั้งจุดตรวจค้นบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบชาวเขมรมุสลิม 15 คน ถือกระเป๋าสัมภาระเดินทางผ่านด่านตรวจ จากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น พบว่าในกระเป๋าเสื้อผ้าของนายแมน มัตอารี อายุ 29 ปี ชาวจ.กระแจะ ประเทศกัมพูชา มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซุกซ่อนอยู่ เช่น แผงวงจรไฟฟ้า 2 ชุด ตัวรีเลย์ไฟฟ้า 1 ชุด พร้อมด้วยกล่องไม้แยกส่วน ขนาดกว้าง 8 ซม. สูง 6 ซม. และยาว 18 ซม. จำนวน 5 แผ่น ด้านข้างกล่องไม้มีการเจาะรูต่อวงจรไฟฟ้าไว้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งนายแมน ให้การอ้างว่า เพื่อนชาวเขมรมุสลิมฝากวัตถุดังกล่าวไปให้เพื่อนชาวเขมรมุสลิมด้วยกันที่ชายแดนประเทศมาเลเซีย โดยไม่ทราบว่าเป็นอุปกรณ์อะไร บอกเพียงว่าเอาไปใช้ระเบิดจับปลา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ประสานขอเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจาก กก.ตชด.ที่ 12 มาตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นแผงวงจรไฟฟ้าและแผงวงจรเอสซีอาร์ (SCR) ซึ่งเป็นวงจรรีเลย์สัญญาณสามารถต่อพ่วงกับโทรศัพท์มือถือได้ โดยหากมีการต่อพ่วงครบวงจรจะสามารถทำเป็นระเบิดแสวงเครื่องได้ ส่วนกล่องไม้เมื่อประกอบแล้วสามารถบรรจุระเบิดได้ประมาณ 1 ปอนด์ รัศมีการทำลายประมาณ 100 เมตร
ร.ต.อ.วิชาญ จิตตยานันท์ รอง สว.สส. สภ.ต.คลองลึก กล่าวว่า ในชั้นต้นนี้ ยังไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เนื่องจากเป็นแค่อุปกรณ์เท่านั้น ไม่ได้มีการต่อวงจรทำเป็นวัตถุระเบิดที่สมบูรณ์ เพียงแต่สงสัยในพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ จึงทำการตรวจยึดอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ พร้อมทั้งสอบประวัติและถ่ายภาพเก็บไว้ก่อนปล่อยตัวไป เนื่องจากชาวเขมรมุสลิมทุกคนมีพาสปอร์ต และประทับวีซ่าเข้าประเทศมาอย่างถูกต้อง
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังรุนแรงต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ตำรวจ สภ.อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงนายอับดุลเราะมาน สะมะ อายุ 60 ปี อุสตาซโรงเรียนสอนศาสนาบ้านบาลอ และที่ปรึกษาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เสียชีวิต ขณะขับรถกระบะมาตามถนนสายรามัน-บาลอ หมู่ 1 บ้านลีนา ตำบลกายูบอเกาะ เพื่อไปสอนหนังสือ สภาพศพถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าที่ใบหน้า ศีรษะ และลำตัวจำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 21 ปลอก ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายต่อไป ซึ่งเชื่อว่าเป็นพวกกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่
No comments:
Post a Comment