Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Tuesday, July 3, 2012

เตรียมพร้อมส่งทูต ตร.ประจำ จีน ลาว พม่า กัมพูชา

ที่มา: เดลินิวส์
วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม 2555 เวลา 17:01 น.

เตรียมพร้อมส่งทูตตำรวจประจำ จีน ลาว พม่า กัมพูชา เพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติและประสานงานและแสวงหาความร่วมมือทางอาญา

วันนี้ ( 3 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการส่งข้าราชการตำรวจทำหน้าที่ประสานงานกิจการตำรวจ ณ ต่างประเทศ เพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติและประสานงานและแสวงหาความร่วมมือทางอาญา  ครั้งที่ 1/2555 ร่วมกับ พล.ต.ท.อำนาจ  อันอาตม์งาม ผบช.ยุทธศาสตร์  พล.ต.ท.ยงยศ  นาคเฉลิม ผบช.สกพ. พล.ต.ต.พุทธิชาติ  เอกฉันท์ รองผบช.ปส.    และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองการต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง   ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวภายหลังการประชุม ว่า เป็นการหารือและเตรียมความพร้อม กรณีตร.จะขออนุมัติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อ จัดส่งข้าราชการตำรวจ ไปประจำการในประเทศ พม่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  กัมพูชา และ มณฑลยูนานประเทศจีนเพื่อทำหน้าที่เป็นนายตำรวจประสานงาน ด้านการปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรม และความร่วมมือทางอาญา  นอกเหนือจากการมีตำรวจสันติบาลประจำการที่ประเทศมาเลเซียที่มีอยู่แล้ว ซึ่งการส่งตำรวจไปประจำการที่ 4 ประเทศนี้ประเด็นที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติผลักดัน โดยต้องการเน้นการประสานข้อมูลในเรื่องยาเสพติดโดยเฉพาะ  ทั้งนี้เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ของคณะทำงานโครงสร้างบุคคลากรของไทยที่ประจำการในต่างประเทศ ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนเป็นประธาน และต้องผ่านคณะกรรมการอีก 2 ชุด จึงนำเข้าพิจารณาใน ครม.ได้ ดังนั้นในส่วนของตร.ต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อน

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คณะกรรมการข้าราชการตำรวจได้อนุมัติเปิดตำแหน่ง นายตำรวจเพื่อไปปฏิบัติภารกิจนี้ไว้แล้วตั้งแต่พ.ศ. 2550 โดยกำหนดให้ ประเทศละ 2 ตำแหน่ง คือ รองผู้บังคับการ 1 ตำแหน่ง  สารวัตร 1 ตำแหน่ง แต่คณะกรรมการมองว่าคงไม่พอ จึงต้องพิจารณาเรื่องการจ้างพนักงานท้องถิ่นมาเป็นเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการชุดนี้จะพิจารณาด้านงบประมาณ ความคุ้มค่าเนื่องจากต้องให้งบฯมาก  โดยต้องวางกรอบภารกิจให้เหมาะสม ทั้งนี้หากครม.อนุมัติ ตร.ก็ต้องกำหนดคุณสมบัติข้าราชการตำรวจที่จะดำรงตำแหน่งนี้ ทั้งด้านภาษา ที่เบื้องต้นควรต้องมีคะแนนสอบ โทเฟล มากว่า 550 คะแนน ไอเอล มากกว่า 600 คะแนน

รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้  ตร.กำลังเตรียมความพร้อมตำรวจในการก้าวเข้าสู่ปะชาคมอาเซียนในปี 2558  โดยมอบหมายให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง แบ่งงานกันไปดำเนินการด้านต่างๆให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ และตามแผนปฏิบัติการของตร.  ทั้งนี้ ต้องวางระบบการรับตำรวจใหม่ และฝึกอบรมทักษะให้ข้าราชการตำรวจที่มีอยู่กว่า 200,000 คน ให้มีความพร้อม ซึ่งเป็นเรื่องที่ตร.ต้องวางระบบ เป็นเรื่องใหญ่  โดยมองว่าจากนี้ตำรวจที่อยู่ในแนวชายแดน ในพื้นที่ซึ่งติดต่อหรือใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านต้องมีทักษะภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาถิ่นของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ตำรวจภูธรภาค 3 ควรต้องสื่อสารภาษากัมพูชาได้.

RevolverMap