Leh in my memory...

As we are entering the new era, where nations are becoming one community, I, as well as my PTI 27th session’s member friends have the mutual vision that we, and other friends of the Asia-Pacific nations, will become closer than ever.
ยินดีต้อนรับสู่โลกใบเล็กของผม โลกของคนทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชีวิตในวัยเด็กผมเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นสถาปนิก แต่เมื่อยามต้องเลือกทางเดินของชีวิต ผมกลับเลือกที่จะสวมเครื่องแบบสีกากี โดยสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเหล่าตำรวจ หลังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผมเลือกลงบรรจุรับราชการในตำแหน่งพนักงานสอบสวนที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ชีวิตราชการวนเวียนโยกย้ายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดมา ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากศูนย์อำนาจรัฐ และการทำงานในหลายโอกาสอาจพบพานกับอุปสรรคภยันตรายต่าง ๆ บ้าง แต่ที่นี่คือ “บ้าน” ผมจึงยังทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับงานที่ทำอยู่เสมอ...

Friday, March 26, 2010

เรื่องของ...ยาสี่คูณร้อย (ตอนที่ 1)

ซาแนกซ์ หากถามว่า ปัญหาภาคใต้เกิดจากปัจจัยสาเหตุอะไร คำตอบ ก. ข. ค. ง. อาจจะไม่เพียงพอสำหรับคำถาม ก็คงต้องมีตัวเลือก จ.ถูกทุกข้อ เป็นคำตอบสุดท้าย แบบเกมเศรษฐีของคุณไตรภพ ลิมปะพัทธ์ เพราะปัญหาภาคใต้เกิดจากหลายปัจจัยสาเหตุ ทั้งเรื่องของอดีต ชาติพันธุ์ การศึกษา และล่าสุดกำลังมีผู้พยายามชักนำปัญหาไปสู่ความขัดแย้งทางศาสนา เถียงกันไม่จบไม่สิ้น  ปัญหาหนึ่งที่มีส่วนสำคัญเป็นไฟสุมขอนทำให้ภาคใต้ของเราลุกเป็นไฟก็คือ “ปัญหายาเสพติด”   สำหรับในภูมิภาคอื่น ๆ ปัญหายาเสพติดอาจระบาดตามผับตามเธคดังเช่นการระบาดของ “ยาอี”  ยายอดนิยมของวัยรุ่นทั้งหลาย แต่ด้วยความที่ยาตัวนี้มีราคาแพงและหาได้ค่อนข้างยากพอสมควร วัยรุ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงได้ประยุกต์ใช้ยาตัวหนึ่งนำมาบดผสมกับน้ำที่เคี่ยวจากใบกระท่อม ผสมกับส่วนผสมอื่นอีก 2 – 3 ชนิด เรียกว่า “ยาสี่คูณร้อย” ยาตัวที่ว่าซึ่งรัฐบาลจะต้องหันมาให้ความสนใจมากขึ้นกว่านี้คือ “Zanax” ยาตัวนี้อาจจะฤทธิ์ไม่เท่ายาอี แถมยังหาได้ง่ายและราคาถูกกว่ามาก

Xanax”  เป็นชื่อทางการค้าของยาที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลางมีผลในการกล่อมประสาท ซึ่งสารที่ออกฤทธิ์ก็คือ “สารอัลปราโซแลม (Alprazolem)” จัดอยู่ในกลุ่ม “Benzodiazepine” เป็นยาที่การแพทย์ใช้กันมานานแล้ว เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษา

จัดเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 4 เป็นยาควบคุม จะซื้อจะขายได้ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ แต่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยาชนิดนี้หาได้ไม่ยากครับ
ลักษณะของเม็ดยาเป็นเม็ดรีเล็ก ๆ สีฟ้าหรือม่วงอ่อน ๆ ปกติแพทย์จะใช้ยานี้รักษาอาการซึมเศร้า โรคเครียดในผู้ป่วย แต่มักจะใช้ในระยะสั้น เนื่องจากยาตัวนี้ทำให้เสพติดทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าหยุดยากระทันหันจะทำให้มีอาการเหงื่อออก ใจสั่นนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย บางคนกินยาร่วมกับการดื่มสุรา ก็จะยิ่งทำให้ออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น มีอาการเคลิบเคลิ้ม คึกคะนอง กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายจึงจัดเป็นยาเสียตัวเหมือนกับยาอี

เนื่องจากเป็นยาที่หาได้ง่ายกว่าและราคาไม่แพง  เม็ดหนึ่งราคาไม่เกิน 50 บาท จึงเป็นที่นิยมของบรรดาวัยรุ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เพราะความที่ฤทธิ์ยาแรงไม่เท่ายาอีจึงทำให้วัยรุ่นเพิ่มยาขึ้นเรื่อย ๆ จนมีผลทำให้กระทบกระเทือนถึงสมองอย่างรุนแรงในบั้นปลาย

การที่จะแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหายาเสพติดจึงเป็นปัญหาสำคัญปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลจะต้องไม่ละเลยในการจัดการกับปัญหา ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาในด้านอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
ในโอกาสต่อไป ผมจะมาเล่ารายละเอียดของส่วนผสม หรือสูตรของยาสี่คูณร้อยให้ฟังครับ..

Thursday, March 18, 2010

ป่วนวางบึ้มปลอมติดรูป ผกก.บันนังสตา ข้างเสาปูน

วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 11:24 น.  ข่าวสดออนไลน์
IMG_1478_resize
ค้นบ้าน ต.บาเจาะ ยึดปืน 4 กระบอก
     เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 16 มี.ค. ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา รับแจ้งมีวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ข้างเสาปูนริมถนน ที่บนถนนสาย 410 (บันนังสตา-ธารโต) หมู่ 3 บ.เงาะกาโป ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา จึงแจ้ง ร.ต.ท.ธาม  ลอยสะเทื้อน รอง สวป.สภ.บันนังสตา ประสานกำลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุเข้าตรวจสอบโดยได้ปิดกั้นเส้นทางเนื่อง จากเกรงว่าจะเกิดอันตราย ที่บริเวณเสาปูนริมถนนพบกลุ่มคนร้ายได้นำธงชาติไทยมาคลุมเอาไว้ พร้อมนำรูปของ พ.ต.อ.สมเพียร  เอกสมญา  อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา ที่เสียชีวิต มาติดเอาไว้ และเขียนถ้อยคำหยาบคายเอาไว้ โดยที่บริเวณโคนเสาพบกล่องต้องสงสัยพันด้วยเทปกาว เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้จึงได้ทำลายทิ้ง พบว่าไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีรถจักรยานยนต์และรถยนต์ วิ่งเข้ามาจอดตรงจุดดังกล่าว ก่อนที่จะขับออกไป เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนใน พื้นที่
     ก่อนหน้านี้เวลา 05.30 น. พ.ต.ท.ศุภชัช ยีหวังกอง  สารวัตรงานสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายที่หมู่ 3 บ.บางลาง ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา หลังจากสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายใช้โทรศัพท์โทรมาข่มขู่การทำงานของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมาพบนายดอรอแม ปูตะ จึงได้ขอโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบว่าเป็นหมายเลขเดียวกันที่ใช้โทรศัพท์ โทรมาข่มขู่เจ้าหน้าที่หรือไม่ จากนั้นจึงตรวจค้นบ้านเลขที่ 153/2  ซึ่งอยู่ติดกัน พบนายอับดุลรอนี เลาะราแม อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาวขนาด .22  จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 1 กระบอก  อาวุธปืนขนาด .38  ลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก  แมกกาซีนปืนจำนวน 3 อัน และเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ จำนวนมาก  เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดปืนทั้งหมดมาตรวจสอบ นายอับดุลรอนีให้การว่าตนเองเป็น ชรบ.ของหมู่บ้าน  เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนว่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อเหตุรุนแรงใน พื้นที่หรือไม่

------------------------------------------------------

 

ค้นบันนังสตายึดอาวุธปืน 4 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนเพียบ ขณะที่คนร้ายวางบึ้มปลอมป่วน

วันพุธที่ 17 มีนาคม 2010 เวลา 10:43 น.  สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 เวลา 08.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ข้างเสาปูนริมถนน ที่บนถนนสาย 410 (บันนังสตา - ธารโต) หมู่ 3 บ.เงาะกาโป ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา
     จึงได้แจ้ง ร.ต.ท.ธาม ลอยสะเทื้อน รอง สวป.สภ.บันนังสตา ประสานกำลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ฉก.อโนทัย เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา 15 เข้าตรวจสอบทันที
เมื่อมาถึงจุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นเส้นทางไม่ให้รถวิ่งผ่าน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย โดยที่บริเวณเสาปูนริมถนนดังกล่าวพบว่า กลุ่มคนร้ายได้นำธงชาติไทยมาคลุมเอาไว้ พร้อมนำรูปของ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา ที่เสียชีวิต มาติดเอาไว้ และเขียนถ้อยคำหยาบคายเอาไว้ โดยที่บริเวณโคนเสาพบกล่องต้องสงสัยพันด้วยเทปกาว เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้จึงได้ทำลายทิ้ง พบว่า ไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด 
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา ได้มีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ วิ่งเข้ามาจอดตรงจุดดังกล่าวก่อนที่จะขับออกไป เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่บันนังสตา 
โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.ศุภชัช ยีหวังกอง สารวัตรงานสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พร้อมด้วย ร.ต.ท.ธาม ลอยสะเทื้อน รอง สวป.สภ.บันนังสตา นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ศชต. ชุดสืบสวน ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ยะลา15 เข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายที่หมู่ 3 บ.บางลาง ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังจากสืบทราบว่าในบริเวณดังกล่าว กลุ่มคนร้ายใช้โทรศัพท์โทรมาข่มขู่การทำงานของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 53 ที่ผ่านมา
     ซึ่งที่บ้านเลขที่ 153 บ้านบางลาง เจ้าหน้าที่พบ นายดอรอแม ปูตะ จึงได้ขอโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบว่าเป็นหมายเลขเดียวกันที่ใช้โทรศัพท์โทรมาข่มขู่เจ้าหน้าที่หรือไม่
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 153/2 ซึ่งอยู่ติดกัน พบ นายอับดุลรอนี เลาะราแม อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนลูกซองจำนวน 1กระบอก อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซูปเปอร์ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 ลูกโม่ จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีนปืนจำนวน 3อัน และเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดปืนทั้งหมดมาตรวจสอบว่าเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 
โดย นายอับดุลรอนี ให้การว่า ตนเองเป็น ชรบ. ของหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวมาซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 15 เพื่อตรวจสอบว่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หรือไม่
------------------------------------------------------

Monday, March 15, 2010

“สมเพียร เอกสมญา” วีรบุรุษตำรวจชายขอบ

news_img_50135_2 พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา (ยศที่ได้รับพระราชทาน) หรือ “จ่าเพียร” อดีต ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ผู้วายชนม์ ผู้ซึ่งไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เป็นวีรบุรุษ ได้แต่ขอเพียงทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ความหวังว่าจะได้พบกับความสงบสุขกับครอบครัวในบั้นปลายของชีวิตยามเกษียนอายุราชการ กลับกลายเป็นความฝันของคนข้างหลังไปตลอดกาล…


แม้วันนี้ “สมเพียร เอกสมญา” จะเหลือเพียงนามอันยิ่งใหญ่ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้คนไทยได้จดจำรำลึกถึงในฐานะวีรบุรุษตำรวจชายขอบ ท่านได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประเทศชาติจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต  ความตายของท่านไม่เสียเปล่า  แต่ได้จุดประกายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ที่กำลังทะเลาะชิงตำแหน่งกันอยู่ในส่วนกลาง ได้หันกลับมาเหลียวแลสภาพความเป็นอยู่ขวัญและกำลังใจของข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ผมเชื่อว่า เพื่อนตายสหายศึกที่ร่วมกันต่อสู้เคียงบ่าเคียงใหล่อยู่ในพื้นที่ทุกคน ไม่มีใครอยากจะเป็นวีรบุรุษในยามที่ตัวเองหมดลมหายใจ แต่เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องอยู่ ด้วยวินัยและหน้าที่ที่ค้ำคอ ทุกคนจึงต้องอยู่เพื่อสู้โดยไม่มีบิดพลิ้ว

พล ต.อ.สมเพียร เอกสมญา”  เมื่อยามที่ได้สละชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินอันเป็นที่รัก ชีวิตที่สูญสิ้นไปคงจะคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้ปกป้อง  หลับเถิดครับ หลับให้สบาย

Thursday, March 4, 2010

“Los Angeles County Sheriff's Department” หรือ “LASD”

BACA8X10T2-COPY
คราวที่แล้วผมได้เล่าถึงการฝึก CQB ที่มีเจ้าหน้าที่จาก “LASD” หรือ “Los Angelis County Sheriff’s Department” มาเป็นครูฝึกให้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ผมจะเล่าถึงความเป็นมาและหน้าที่ของ “LASD” ให้ฟังนะครับ
 
ในอเมริกา มีการกระจายอำนาจการปกครองลดหลั่นลงไปเป็นหลายระดับ ตั้งแต่ระดับรัฐ (State) ลงไปเคาน์ตี้ (County) แต่ละระดับมีหน่วยงาน “บังคับใช้กฎหมาย” เป็นของตัวเองกระจายตามพื้นที่ “หน่วยบังคับใช้กฎหมาย” หรือ “ตำรวจ” ของแต่ละรัฐ หรือแต่ละเคาน์ตี้ มีลักษณะเป็นตำรวจท้องถิ่น มีอำนาจบริหารจัดการเองไม่ขึ้นกับรัฐบาลกลาง แม้แต่ในมหาวิทยาลัยหรือในสวนสาธารณะก็มี “ตำรวจ” เป็นของตัวเอง ตำรวจท้องถิ่นอเมริกา หัวหน้าหน่วยมีอำนาจโยกย้ายได้เฉพาะแต่ในเขตหรือหน่วยของตัวเอง ในขณะที่ตำรวจไทย มีลักษณะรวมศูนย์เป็น “ตำรวจแห่งชาติ (National Police)” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจได้ทุกหน่วยทุกนายทั่วประเทศ

002_03.16.12
ในอเมริกา หากมีคดีสำคัญหรือคดีคาบเกี่ยวเกิดขึ้นหลายพื้นที่ มีหน่วย FBI (Federal Bureau of Investigation) ทำหน้าที่เป็น "ตำรวจ" ของรัฐบาลกลาง มีอำนาจสืบสวนสอบสวนครอบคลุมทั้งประเทศ  ส่วนบ้านเรา มี “บช.ก.” หรือ “กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” มีอำนาจสืบสวนสอบสวนครอบคลุมทั้งประเทศ  ซึ่งในปัจจุบันมี “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” หรือ “DSI” เพิ่มขึ้นมาอีก 1 หน่วย ตั้งขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลย์และคานอำนาจของตำรวจ

คำว่า “Sheriff” หากแปลตามตัวก็คงจะหมายถึง “นายอำเภอ” แต่นายอำเภอในอเมริกาคงไม่ใช่นายอำเภอรูปแบบเหมือนบ้านเราเป็นแน่  “Sheriff”  ดูแลเมืองเล็ก ๆ (County) อาชญากรรมไม่ซับซ้อนมาก มีอำนาจสืบสวนสอบสวน มีการจัดสายตรวจ ตัวหัวหน้าหน่วยมาจากการเลือกตั้ง อาจจะใหญ่กว่า มีอำนาจครอบคลุมมากกว่านายอำเภอบ้านเรา และอาจทำหน้าที่อื่น ๆ ด้วย เช่น หน้าที่ในการเก็บภาษีอากร เป็นต้น เมื่อพิจารณาจากเนื้องานแล้ว อาจอนุมานได้ว่า “Sheriff” ก็คือ "เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ" ตาม ป.วิ อาญา ของไทย ซึ่งเป็น “ผู้บังคับใช้กฎหมาย” ในอีกรูปแบบหนึ่งนั่นเอง

LASD” เป็นกรม "Sheriff" ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา (ผมใช้คำว่า “กรม” ในความหมายของ “หน่วย” หรือ “องค์กร” นะครับ...) มีกำลังพลรวมทั้งสิ้นประมาณ 16,000 นาย รับผิดชอบพื้นที่ประมาณ 34,500 ตารางไมล์ ซึ่งมีประชากรราว 9 ล้านคน หัวหน้ากรม "Sheriff" ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในมณฑลลอสแอนเจลิสอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี เพราะฉะนั้นในการทำงาน ผบ.กรม “LASD” จึงต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ไม่ได้รับผิดชอบต่อนักการเมือง(น้ำเน่า) เหมือนตำรวจของบางประเทศ

RevolverMap